“ทรัมป์” ต่อสาย “ปูติน” เจรจายุติสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” เล็งพบกันที่ซาอุดีอาระเบีย

“โดนัลด์ ทรัมป์” พูดคุยกับผู้นำรัสเซียและยูเครน เตรียมเปิดการเจรจายุติสงคราม เล็งใช้ซาอุดีอาระเบียเป็นเวทีการพูดคุย


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (13 ก.พ.68) ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เปิดเผยผ่านแอปพลิเคชัน Truth Social. ถึงการโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำแห่งรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทรัมป์ กล่าวถึงบทสนทนาครั้งนี้ว่า เป็นการพูดคุยที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งผู้นำทั้งชาติมหาอำนาจของโลก ได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน

“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหยุดสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งมีความตายและการทำลายล้างครั้งใหญ่ ขอพระเจ้าอวยพรชาวรัสเซียและยูเครน” ทรัมป์ ระบุ

ขณะที่ สำนักข่าว Daily Mail รายงานว่า ทรัมป์ได้ประกาศในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ในทำเนียบขาว หลังจากคุยโทรศัพท์กับผู้นำรัสเซียเป็นเวลา 90 นาทีว่า เขาจะพบกับปูติน เพื่อเจรจาสันติภาพในยูเครน และการหารือครั้งแรกของพวกเขาน่าจะเกิดขึ้นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

เวลาต่อมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับทรัมป์ เกี่ยวกับสันติภาพที่ยั่งยืนและเชื่อถือได้ และเตรียมพบกับนายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสุดยอดด้านกลาโหม ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ในวันศุกร์ (14 ก.พ.68) นี้

จุดเริ่มต้นสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2565 กองทัพรัสเซีย เปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ซึ่งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกว่า เป็นการกระทำรุกรานและหายนะด้านสิทธิมนุษยชน โดยสงครามระหว่าง 2 ประเทศนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

หลัก ๆ คือเรื่องราคาพลังงาน หลังจากหลายประเทศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพ

สงครามดังกล่าวป่วนตลาดการเงิน เนื่องจากความไม่แน่นอนจากสงคราม ทำให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูง และยังกระทบความมั่นคงทางอาหาร เพราะทั้งรัสเซียและยูเครน เป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก ความขัดแย้งทำให้การส่งออกธัญพืชลดลง ส่งผลให้ราคาอาหารและวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งกระฉูดด้วย

Back to top button