
จับตา AOT วันนี้! โบรกฯ ห่วงกระทบยาว หากต้องประมูล “ดิวตี้ฟรี” ใหม่
AOT เปิดตลาดวันนี้! นักลงทุนลุ้นทิศทาง หลังหุ้นร่วงแรงกว่า 13% จากปมคิง เพาเวอร์เจรจาหนี้ ด้าน ตลท. เรียกชี้แจงด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.พ.68) ยังคงต้องติดตาม กรณีราคาหุ้นของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่ปรับตัวลงแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าลงไปปิดที่ระดับ 47.00 บาท ลบไป 7.50 บาท หรือ 13.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8,720.08 ล้านบาท ส่งผลให้เปิดตลาดในเช้าวันจันทร์นี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไร
โดย นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาเปิดเผยว่า ได้ติดตามและได้ส่งหนังสือ เพื่อให้ AOT ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (14 ก.พ.68) นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ชี้แจงว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่เป็นคู่สัญญา มีปัญหาสภาพคล่อง และเจรจาเพื่อขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทนและปรับสัญญา ซึ่งทางคิงเพาเวอร์ฯ ได้ยื่นเสนอขอเจรจาลดค่าปรับกรณีจ่ายค่าตอบแทนล่าช้า ซึ่งตามสัญญากำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะอยู่ที่ 18% ต่อปี หรือ 1.5% ต่อเดือน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยค่าปรับ ซึ่งจะไม่ต่ำกว่า MLR+2%
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ไม่สดใส ปิดที่ 1,272.10 จุด ลบไป 12.01 จุด หรือ 0.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50,036.21 ล้านบาท ภาวะการซื้อขายภาคบ่ายอ่อนตัวลง จากแรงขายในหุ้น AOT ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ โดยราคาปรับตัวลงถึง 13.76% เมื่อวันที่ (14 ก.พ. 68) นั้น ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของ AOT เหลือ 671,427.90 ล้านบาท ลดลง 107,142.72 ล้านบาท จากเมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 อยู่ที่ 778,570.65 ล้านบาท
บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS สรุปประเด็นความกังวล เบื้องต้นว่า ตลาดกังวลหลัก ๆ คือ กรณีลูกหนี้ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 838 ล้านบาท เป็น 2,026 ล้านบาท และ 5,703 ล้านบาท ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา โดย 1 ในลูกหนี้สำคัญเชื่อว่าคือ คิง พาวเวอร์
ตลาดจึงกังวลว่า 1. AOT อาจต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ และ 2. ถ้า คิง พาวเวอร์ ไม่ไหว อาจต้องจัดประมูลใหม่ ซึ่งก็คาดว่า Minimum Guarantee อาจไม่สูงเท่าเดิม (ราว 25,000 ล้านบาทต่อปี)
อย่างไรก็ตาม ในการทำสัญญา AOT จะมีการให้เอกชนวาง Bank Guarantee (ระยะเวลา 2 ปี) ดังนั้นเบื้องต้นกรณีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญคงไม่น่ากังวลเท่าไร ที่น่ากังวลน่าจะอยู่ที่หากประมูลใหม่แล้ว Minimum Guarantee ต่ำกว่าเดิม ซึ่งเดิมก่อนที่จะเป็นสัญญาใหม่ Minimum Guarantee อยู่ที่ราว 11,187 ล้านบาทต่อปี แปลว่ารายได้ AOT อาจจะหายไปราว 14,000 ล้านบาท ถ้าประมูลใหม่แล้ว Minimum Guarantee ลดลงไป เหลือเท่าสัญญาเก่า ทั้งนี้ ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับว่าฐานะทางการเงิน คิง พาวเวอร์ น่ากังวลขนาดที่ตลาดกังวลหรือไม่