DELTA ปิดรูด 23% ฉุด “มาร์เก็ตแคป” วันเดียววูบ 3.31 แสนล้าน

DELTA ปิดรูด 23% ฉุด “มาร์เก็ตแคป” วันเดียววูบ 3.31 แสนล้านบาท ส่งผลให้เหลือ 1.08 ล้านล้านบาท จากเมื่อวันที่ 14 ก.พ.68 อยู่ที่ 1.41 ล้านล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปิดตลาดวันนี้(17 ก.พ.68) ที่ระดับ 86.50 บาท ลบ 26.50 บาท หรือ 23.45% ราคาสูงสุดที่ระดับ 88.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 79.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8,263.18 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปิดวันนี้ที่ปิดระดับ 86.50 บาท ส่งผลให้ DELTA มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1,078,985,096.11 ล้านบาท จากเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2568 มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 1,409,541.22 ล้านบาท ดังนั้นจะเห็นว่ามาร์เก็ตแคปปรับตัวลงมากถึง 331,445.11 ล้านบาท

สำหรับกรณี DELTA ราคาปรับตัวลงแรงวันนี้เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังผลประกอบการในไตรมาส 4/67 ปรับตัวลดลง 64% เหลือเพียง 2.15 พันล้านบาท และลดลงจากไตรมาสก่อน 54% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์เอาไว้

ขณะเดียวกัน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำขายหุ้น DELTA และปรับราคาเหมาะสมใหม่ 71.50 บาท จากกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 หดตัวแรง ลดลง 54% จากงวดเดียวของปีก่อน และ ลดลง 63% จากไตรมาสก่อน มาที่ 2,155 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญจากต้นทุนขายเพิ่ม-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม และภาษีจ่ายเพิ่ม พร้อมปรับประมาณการปี 68 ลงจากเดิม 20% อย่างไรก็ตามคาดว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Data center, Cloud และ AI ยังมีการเติบโตได้ตามการใช้ที่มากขึ้น ทำให้คาดยอดขายของ DELTA ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง

อีกทั้งแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นนั้นคาดจะเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวของปีก่อน ได้ เนื่องจากปีก่อนมีรายการพิเศษทำให้ต้นทุนเพิ่มและกระทบกับอัตรากำไรขั้นต้นราว 0.6% แต่ขณะเดียวกันเรามีปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารและค่าใช้จ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นขึ้นจากเดิมเช่นกัน เนื่องจากมีการคิดค่าสิทธิการจ่ายจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นจากเดิมคิดเฉพาะสินค้า AI แต่เริ่มมีการคิดในสินค้าอื่นด้วยรวมถึงผลกระทบจาก GMT ทำให้ปรับประมาณการใหม่

โดยคาดยอดขาย 5,006 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวของปีก่อน ปรับอัตรากำไร ขั้นต้นเป็น 26% และปรับสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็น 15% ทำให้กำไรสุทธิใหม่จะอยู่ที่ 17,839 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/E25E ถึง 79 เท่า มองว่าแพงเกินไปเมื่อเทียบกับส่วนเพิ่มที่มีต่อประมาณการแล้ว

Back to top button