
JKN ขายสิทธิ์ MUT รับทรัพย์ 180 ล้าน MGI มั่นใจลงทุนครั้งนี้คุ้มแน่!
JKN ได้ทุนใหม่จาก MGI หลังขายสิทธิ์ประกวด MUT ในประเทศไทย รับเงินสด 180 ล้านบาท เตรียมนำเงินเดินหน้าแผนฟื้นฟูเต็มกำลัง ด้านผู้บริหาร MGI มั่นใจดีละการลงทุนครั้งนี้มีความคุ้มค่าแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.พ.68) หลังจาก บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมของบริษัทเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาได้อนุมัติการเข้าลงทุนโดยการซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 180 ล้านบาท รวมถึงการเข้าทำสัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนดังกล่าว
โดย MGI ได้เข้าซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) สำหรับปี 2568 ถึง 2572 รวมทั้งสิ้น 5 ปี จาก JKN Global Content Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดยบริษัทจะต้องชำระค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 180 ล้านบาท
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.พ. 68) ได้มีการจัดงานแถลงข่าวถึงการทำธุรกิจร่วมกัน ระหว่าง JKN และ MGI โดย นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI กล่าวว่า เรื่องการคุยลิขสิทธิ์นั้นมีการคุยมาเป็นปีแล้ว ซึ่งบางอย่างก็ต้องมีการแสดงออกมาบ้าง ตนเองรอเวลานี้มา 14 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนกับ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN ก็เจรจากันมาก่อนแล้ว โดยใช้เวลาปิดดีลไม่เกิน 1ปี ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของเพื่อนงอนกัน
ส่วนตัวเลขเงิน 180 ล้านบาท ที่เสียไปเรื่องจ่ายลิขสิทธิ์ นายณวัฒน์ ระบุว่า ขณะนี้ก็มีสปอนเซอร์เข้าแล้ว 115 ล้านบาท จึงเชื่อว่าจะคุ้มทุนในปีนี้แน่นอน ซึ่งตัวเลขทุกอย่างต้องมีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากว่าบริหารงานแบบบริษัทมหาชนที่มีการจดทะเบียน
ส่วนประเด็นที่ว่า การบริหารจัดการเวทีนางงามทั้ง 2 แห่งนั้น เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา เนื่องจากว่าทั้ง 2 เวที มีการบริหารงานที่แตกต่างกัน
สำหรับการที่ซื้อลิขสิทธ์เป็นเวลา 5 ปีตนเองมองถึงความคุ้มค่า โดยเวที MUTสามารถนำแบรนดิ้งมาต่อยอดได้ทัน โดยอยู่บนพื้นฐานที่ต้องเติบโตและตอบโจทย์ ยังไงก็คุ้มค่าจึงขอให้นักลงทุนของ MGI มั่นใจได้ โดยหุ้นจะมีการปันผลปี 67 ในจำนวน 40% ของกำไร โดยจะมีการขึ้น XD วันที่ 24 ก.พ.
ขณะที่ความคืบหน้าในการลงทุนหุ้น SABUY ยังคงถือสัดส่วนเท่าเดิม คือ ถือในสัดส่วน 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.70% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และไม่ขายหุ้นออกอย่างแน่นอน หลังจากหุ้นถูกบันทึกในส่วนที่ไม่ได้ถูกคำนวณมูลค่า ดังนั้นราคาหุ้นขึ้นลงไม่ได้มีผลต่อแนวคิด และยังคงมีการพูดคุยกับทีมผู้บริหารใหม่ต่อเนื่อง ย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับหุ้น และเดินหน้าเกี่ยวกับธุรกิจต่อไป
ทางด้าน นายจักรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องเงินที่ได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ 180 ล้านบาทจะเอาไปช่วยเหลือเด็ก โดยอีกส่วนนั้นจะมีการเอาไปทำแผนฟื้นฟูของบริษัท ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความเรียบร้อยแล้ว 100%
พร้อมกันนี้ขอชื่นชม นายณวัฒน์ ที้มีทีมงานที่ดี โดยเวที MUT ในครั้งนี้จะมีคุณภาพ และจะทำให้ทุกคนที่ลงทุนพอใจ สามารถเชิดหน้าชูใจให้ประเทศไทยไปสู่จักรวาลได้