“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ กังวลเทรดวอร์ หลัง “ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีรถยนต์-ชิป-เวชภัณฑ์ 25%

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ กังวลสงครามการค้ากลับมาอีกครั้ง หลัง “ทรัมป์” ขู่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ชิป และยา กระทบอุตสาหกรรมหลัก นักลงทุนชะลอความเสี่ยง


ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบในวันนี้ (20 ก.พ.68) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา ในอัตรา 25%

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ระดับ 38,942.91 จุด ลดลง 221.70 จุด หรือ -0.57% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,716.71 จุด ลดลง 227.53 จุด หรือ -0.99% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,347.59 จุด ลดลง 3.95 จุด หรือ -0.11%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดลบ 0.18% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ร่วงลง 1.06%

ด้าน ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโกในวันอังคาร (18 ก.พ.68) ว่า เขามีความตั้งใจที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และยาก็จะอยู่ในอัตราเดียวกัน หรืออาจจะสูงกว่า โดยปธน.ทรัมป์ระบุว่าอาจจะมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ครั้งใหม่ในวันที่ 2 เม.ย.68

ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติ ซึ่งรวมถึงบริษัทของญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ อาจจะได้รับผลกระทบอย่างมากหากปธน.ทรัมป์นำมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์มาใช้

สำหรับความเคลื่อนไหวของจีนในช่วงเช้าวันนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี เอาไว้ที่ระดับ 3.1% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.6% เนื่องจากทางการจีนให้ความสำคัญกับการสร้างเสถียรภาพด้านการเงินมากกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

Back to top button