
อียู ขยับ! ถกอนาคตสงคราม “ยูเครน” 6 มี.ค.นี้ หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณเอื้อรัสเซีย
สหภาพยุโรป เตรียมจัดประชุมพิเศษ ปม “ยูเครน” 6 มี.ค.นี้ หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณใกล้ชิดกับรัสเซีย กระตุ้นความกังวล ด้าน “เซเลนสกี” ประกาศพร้อมลาออกแลกสันติภาพของประเทศ
เว็บไซต์ Firstpost รายงานว่า นายอันโตนิโอ คอสตา ประธานการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.68) ว่า อียูจะจัดประชุมสุดยอดพิเศษ ในวันที่ 6 มีนาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน และแนวทางเสริมสร้างการป้องกันของยุโรป หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความพยายามเข้ามาเป็นคนกลาง และมีแนวโน้มกดดันให้ยูเครนยุติสงคราม
“นี่คือช่วงเวลาสำคัญของยูเครนและความมั่นคงของยุโรป จากการหารือกับบรรดาผู้นำยุโรป ผมรับรู้ถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเผชิญความท้าทายนี้ในระดับอียู ทั้งในด้านการเสริมสร้างการป้องกันของยุโรป และการมีบทบาทสำคัญต่อสันติภาพในทวีปของเรา รวมถึงความมั่นคงระยะยาวของยูเครน”
คอสตา ย้ำว่า ผู้นำยุโรปมีความเห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องรับมือกับความท้าทายนี้อย่างเป็นเอกภาพ โดยเน้นที่การเสริมสร้างการป้องกันของยุโรปและการช่วยสร้างสันติภาพในภูมิภาค
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้จัดประชุมเกี่ยวกับยูเครนที่กรุงปารีสถึง 2 ครั้ง และเตรียมเดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันจันทร์นี้ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งแม้ว่าอังกฤษจะไม่ได้เป็นสมาชิกอียูแล้ว แต่ก็มีกำหนดเดินทางไปทำเนียบขาวภายในสัปดาห์นี้
สำหรับท่าทีล่าสุดของ นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีแห่งยูเครน ได้ออกมาระบุว่า ตนยินดีที่จะสละตำแหน่งหากเป็นเงื่อนไขในการนำพาสันติภาพมาสู่ยูเครน และผลักดันให้ประเทศได้เข้าเป็นสมาชิก นาโต้ (NATO)
“ถ้ามันทำให้ยูเครนได้สันติภาพ ถ้าพวกคุณต้องการให้ผมออกจากตำแหน่ง ผมก็พร้อม… ผมขอแลกตำแหน่งนี้กับ NATO” เซเลนสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่กรุงเคียฟ พร้อมย้ำว่าเขาพร้อมลงจากตำแหน่งทันทีหากจำเป็น นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังกล่าวว่า เขาต้องการให้ทรัมป์ เป็น “พันธมิตร” ของยูเครน มากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างเคียฟและมอสโก
สถานการณ์ในยูเครนกำลังถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ และประชาคมยุโรปกำลังจับตาท่าทีของทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียอย่างใกล้ชิด
ข่าวเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ แสดงท่าทีต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียและหาทางยุติสงครามในยูเครนที่ดำเนินมานานกว่า 3 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ในช่วงที่ผ่านมา
โดยนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงต่อดัชนีตลาดหุ้น ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงการตอบสนองของประเทศต่าง ๆ และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศ