WHA ชี้หุ้นร่วง 20% แพนิกเซลล์! เดินหน้าสปินออฟ WHAID มั่นใจรายได้ปี 68 แตะ 2 หมื่นล้าน

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ซีอีโอ WHA ย้ำแผนสปินออฟ WHAID เข้าตลาดหลักทรัพย์ เดินหน้าขยายธุรกิจนิคมฯ มั่นใจศักยภาพเติบโต แม้หุ้นร่วง 20% จากแรงขาย Panic Sell พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 2 หมื่นลบ. ตามแผนลงทุน 5 ปี วงเงิน 1.19 แสนลบ.


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น WHA กว่า 20% ในวันนี้ (24 ก.พ.68) ซึ่งเป็นผลจากแรงขายเชิง Panic Sell แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากกระแสข่าวผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ที่ต่ำกว่าคาด หรือความกังวลเกี่ยวกับแผน Spin-off ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของ WHAID เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET)

นางสาวจรีพร กล่าวอีกว่า ผลประกอบการปี 2567 แข็งแกร่ง แม้ว่ารายได้ไตรมาส 4 ชะลอตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมูลค่าการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน WHAIR ต่ำกว่าปีก่อน และมีการรับรู้ขาดทุนจากโรงไฟฟ้า เก็คโค่-วัน แต่ กำไรปกติทั้งปี 2567 อยู่ที่ 4,526 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ (New Record High)

สำหรับในปี 2567 บริษัทชะลอการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน WHART เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม การขายสินทรัพย์เข้ากองทุน WHAIR ในช่วงปลายปีช่วยให้ อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 61.9% จาก 26.4% ในปี 2566 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ดินอยู่ที่ 61.0% เพิ่มขึ้นจาก 54.9% หลังจากมีการปรับราคาขายที่ดินในประเทศให้สูงขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมี ยอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) 1,535 ไร่ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2568 นอกจากนี้ ได้เซ็นสัญญาขายที่ดินให้ลูกค้ารายใหญ่กว่า 1,000 ไร่ โดยรับรู้รายได้ไปแล้ว 500 ไร่ ในปี 2567 และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ภายในไตรมาส 1-2/2568 อีกทั้งในปี 2567 บริษัทมี EBITDA Margin อยู่ที่ 58% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 40% และดีกว่าปี 2566

นางสาวจรีพร กล่าวต่อว่า แม้ภาวะตลาดจะมีความไม่แน่นอน แต่ WHA ยังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโต โดยตั้งเป้าหมาย รายได้และส่วนแบ่งกำไรปี 2568 อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท พร้อมคง EBITDA Margin มากกว่า 45% และบริหารอัตราหนี้สินต่อทุน (Net IBD/E) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.2 เท่า

“การพิจารณาผลประกอบการควรดูทั้งปี ไม่ใช่รายไตรมาส เนื่องจากธุรกิจของเราไม่ได้เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) และยังคงเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงมีการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น” นางสาวจรีพร กล่าว

บริษัทเดินหน้าตาม แผนการลงทุน 5 ปี (2568-2572) ด้วยงบลงทุน 119,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรเติบโต 2.9 เท่า แตะ 41,900 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทจะประเมินสถานการณ์ตลาดและปรับแผนให้เหมาะสม หากมีการเปลี่ยนแปลง อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมด

“เรามีศักยภาพในการระดมทุนตามแผนลงทุน 5 ปี แต่หากนำ WHAID เข้าตลาด จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายการลงทุน และเสริมความมั่นคงทางการเงิน” นางสาวจรีพร กล่าว

นางสาวจรีพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการนำ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ซึ่งเป็นธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ซึ่งยืนยันว่าบริษัทมีการวางแผนมาอย่างดี โดยมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมนิคมฯ ทั้งในไทยและเวียดนามยังมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งถึงเวลาเหมาะสมที่ WHAID จะเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน WHA Group ก็ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ ดังนั้น การ Spin-off จะช่วยให้ทั้งกลุ่มเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

บริษัท WHA ยืนยันว่าจะยังคงถือหุ้น WHAID ไม่น้อยกว่า 75.95% แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงจาก 98% แต่การรวมงบการเงินของ WHAID ในงบการเงินรวมของ WHA ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และ WHA ยังคงมีรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาเสริม

บริษัทคาดว่าหลังจาก IPO ของ WHAID อัตราหนี้สินต่อทุน (Net IBD/E) ของ WHA จะลดลงต่ำกว่า 0.7 เท่า จากระดับปัจจุบันที่ 1.2 เท่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพิจารณาภาวะตลาดก่อนดำเนินการ หากไม่เหมาะสม อาจเลื่อนการเข้าตลาดออกไป

“ราคาหุ้น WHA ที่ปรับตัวลดลงกว่า 20% ไม่ต้องกังวล พี่ไม่ได้เล่นหุ้น และไม่มีมาร์จิ้น” นางสาวจรีพร กล่าวย้ำ

Back to top button