หมดรอบเดิม เริ่มรอบใหม่แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ของอาเซียนอย่าง บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO จะร่วงแรงจากราคาสูงสุดของรอบล่าสุด 41 บาท เมื่อวันที่ 13 มกราคม มาอยู่ที่ระดับใต้ 23 บาท แล้วรีบาวด์กลับแรงวานนี้ เพราะราคาหุ้นย่อมมีขึ้นมีลง


ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ของอาเซียนอย่าง บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO จะร่วงแรงจากราคาสูงสุดของรอบล่าสุด 41 บาท เมื่อวันที่ 13 มกราคม มาอยู่ที่ระดับใต้ 23 บาท แล้วรีบาวด์กลับแรงวานนี้ เพราะราคาหุ้นย่อมมีขึ้นมีลง

รวมทั้งหุ้นบริษัทแม่อย่าง บริษัท ทิปโก้ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ที่ควงแขนกับบริษัทลูกร่วงแรงพร้อมกันชนิดไปไหนไปด้วย

เหลือแต่คำถามที่ค้างคาใจนักลงทุน ก็คือ เหตุใด “หุ้นแห่งอนาคต” ที่มีคนเคยให้ราคามากกว่า 50 บาท จึงกลายเป็นหุ้นที่ร่วงหาฐานไม่เจอ ทั้งที่เข้าเขตขายมากเกินครั้งแล้วครั้งเล่า

พูดกันง่ายๆ ไม่ต้องใช้สติปัญญา ก็สรุปกันเลยตามทฤษฎีสมคบคิดว่า เพราะเจ้ามือทิ้งออกมา ให้หมดรอบ ฟาดกำไรไปกัน รอรอบใหม่

ข้อสรุปข้างต้น มองว่า หุ้นมีเจ้ามือ ไม่ต้องดูพื้นฐานให้เสียเวลา แค่ดูว่าเจ้ามือจะเข้า หรือออกเมื่อใดก็พอแล้ว…คำถามก็คือว่า แล้วจะรู้ใจเจ้ามือได้ยังไง(วะ)…น่านนะสิ

ส่วนนักวิเคราะห์บางสำนักที่เน้นพื้นฐาน ก็ออกมา “เชียร์แขก”กันต่อไปอีกว่า ราคาที่ลงมานี้ น่าซื้อเก็บเพราะพื้นฐานยังดี พี/อียังต่ำมากแค่ 7 เท่า เพียงแต่ว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 2559 จะไม่ระเบิดระเบ้อสร้างมหัศจรรย์เหมือนปี 2558 เท่านั้นเอง

นักวิเคราะห์ที่มีมุมมองอย่างหลังนี้ เห็นว่า ราคาหุ้น TASCO เหมือนกับกระท้อนนั้นแหละ อยากกินอร่อยๆลิ้น ต้องทุบเสียก่อน…ไม่ทุบก็เปรี้ยวฟันแย่

ประเด็นมันก็เริ่มจากการที่ราคาหุ้นของ TASCO ที่วิ่งยาวนานเป็นปี หลังจากที่แตกพาร์มาเมื่อต้นปีก่อน จนกระทั่งทะลุแนวต้านมาครั้งแล้วครั้งเล่าชนิดที่ทำให้รายย่อยจำนวนไม่น้อยต้องบ่นกับตัวเองว่าขายหมูไปครั้งแล้วครั้งเล่า มีอาการเริ่มตื้อตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ไม่สามารถทะลุเหนือ 42 บาท ได้เลย ถึงถึงเหนือ 40 บาทีไร แรงขายออกทุกที แสดงว่า แนวต้านตรงราคาดังกล่าวแข็งแกร่งมาก…เสมือนผนังทองแดงกำแพงเหล็กทีเดียว

เมื่อหุ้นเริ่มมีเพดานแกร่งขึ้นทุกที แรงขายก็ต้องออกเพราะไปต่อยากเสียแล้ว…หากไม่ลง จะขึ้นมาได้อย่างไร เป็นกฎของราคาหุ้นอยู่แล้ว

ราคาหุ้นที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า TASCO มีราคาเหมาะสมที่ระดับเหนือ 40 บาท จึงกลายเป็น “ราคาจินตภาพ” ไม่มีทางเป็นจริง เพราะการร่วงลงรอบนี้ อาจะทำให้มีโอกาสเป็นหุ้นดี ราคาเลว ทำนองเดียวกับ THCOM หรือ CPN ก็ได้..ใครจะรู้

ข้อเท็จจริงที่นักวิเคราะห์พยายามพูดถึง และคนไม่ค่อยสนใจก็คือ การวิ่งขึ้นรุนแรงยาวนานนับปี ของ TASCO ในปีที่ผ่านมา เป็นไปเพราะกระแสข่าวว่า ผลประกอบการของบริษัท นอกจากกำไรจากมาร์จิ้นจากการผลิตของโรงกลั่นยางมะตอยที่มาเลเซียอันเป็นฐานหลักแล้ว ยังมีกำไรพิเศษจากการป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าหรือ hedging ในตลาดล่วงหน้าในราคาต่ำ แล้ว ราคาน้ำมันดิบวิ่งขึ้น ทำให้ต้นทุนของยางมะตอยที่ TASCO ได้รับ ต่ำกว่าราคาตลาดมาก มีกำไรพิเศษเยอะแยะ..จะเยอะขนาดไหน ดูได้จากงบการเงินสิ้นงวดปีที่กำลังจะประกาศภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้

เสน่ห์ของกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงเมื่อราคาน้ำมันขึ้นสูงนี่แหละ คือ เคล็ดลับที่ “ขาใหญ่”(จะใช่เจ้ามือ หรือไม่ …ตีความกันเอาเอง) เอามาใช้เป็นเหตุผลในการดันราคา ซึ่งก็สมปรารถนา เพราะมีแมงเม่าตามกันเป็นพรวน..กำไรหรือขาดทุนกันทั่วหน้า มากบ้าง น้อยบ้าง…..จนกระทั่งหมดแรงดันต่อ  

ราคาหุ้นที่ร่วงลงมาแรงจัดเพราะหมดรอบของ TASCO ด้านหนึ่งเกิดจากมุมมองของนักวิเคราะห์บางส่วนที่จุดพลุว่าเปลี่ยนคำแนะนำจาก “ซื้อ” มาเป็น “ถือ” มีนัยสำคัญ ส่วนจะสมรู้ร่วมคิดหรือไม่…พิจารณากันเอาเอง

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ จากนี้ไป เมื่อส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบ และราคายางมะตอยลดลง แถมราคาตลาดโลกยังมีแรงเหวี่ยงน้อยลง เพราะมีการความพยายามสร้างเสถียรภาพของราคาเกิดขึ้น เริ่มจากการ “เจรจาโดยหลักการ” ของรัสเซีย กับ ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวานนี้ในการคงอัตราการผลิตแต่ละชาติไว้ ไม่เกินระดับเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไรของTASCO  ก็น่าจะเป็น “กำไรปกติ” จากการผลิต ไม่ใช่กำไรพิเศษจากการป้องกนัความเสี่ยงของราคาอีกต่อไป

ใครที่เชื่อว่า กำไรพิเศษ ยั่งยืนกว่ากำไรปกติ ก็ไม่ควรซื้อ TASCO สวนใครที่เชื่อว่ากำไรปกติดีกว่า เพราะสะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้บริหารที่นำโดย นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์

เพราะเมื่อจบรอบของการวิ่งไปแล้ว รอบใหม่สำหรับหุ้นพื้นฐานดีเด่นก็จะเริ่มขึ้น

ลางเนื้อ ชอบลางยา…ภาษิตไทยแท้แต่โบราณว่ากันเอาไว้ ยังคงใช้ได้เสมอ…จริงมั้ยเอ่ย

ราคาหุ้นที่รีบาวด์บวกแรงเมื่อวานนี้ท้ายตลาด เกือบ 2.00 บาทของ TASCO จึงมีหมายว่าเป็นแค่ “แมวตายเด้ง” หรือ เป็นการกลับทิศของ breaking out ได้ทั้งสิ้น ขึ้นกับจะเชื่ออย่างไหน

เชิญ…เอาที่พี่ท่านสบายใจเถอะ…นะจ๊ะ

Back to top button