CPALL ร่วง 4% โบรกหั่นเป้าเหลือ 63 บ. เอฟเฟกต์ดีล Seven & I หวั่นกระทบกำไร-เพิ่มหนี้

CPALL ร่วง 4% โบรกเตือนข่าวพิจารณาร่วมดีล MBO ซื้อกิจการ Seven & i มูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท เสี่ยงกระทบกำไรและเพิ่มภาระหนี้สิน โดยปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 63 บาท จากเดิม 73 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (25 ก.พ.68) ราคาหุ้นของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ณ เวลา 11:03 น. อยู่ที่ระดับ 49.75 บาท ลบ 2.00 บาท หรือ 3.86% สูงสุดที่ระดับ 51.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 49.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,389.96 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีรายงานว่า CPALL ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (MBO) ของ Seven & i Holdings (3382) ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของครอบครัวผู้ก่อตั้งในการตอบโต้ข้อเสนอซื้อกิจการจาก Alimentation Couche-Tard Inc (ATD) จากแคนาดา

ขณะนี้ CPALL ยังไม่ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยคาดว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของดีล ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 9 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือ 55.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อฐานะการเงินของ CPALL เนื่องจากเป็นการลงทุนขนาดใหญ่

สำหรับการประเมินเบื้องต้นพบว่าหาก CPALL เข้าลงทุน 56% ของดีล MBO (คิดเป็นมูลค่า 5 แสนล้านเยน หรือประมาณ 1.1 แสนล้านบาท) โดยมีต้นทุนทางการเงินในไทยที่ 4.9% จะกระทบต่อกำไรสุทธิของ CPALL ราวลบ 7% ในปีแรก อย่างไรก็ตาม หากสามารถใช้ต้นทุนทางการเงินในระดับญี่ปุ่นที่ประมาณ 1.6% ผลกระทบต่อกำไรจะน้อยมาก เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก Seven & i สามารถชดเชยดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้ Seven & i กำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบเพิ่มเติมที่ยังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้

นอกจากดีล MBO แล้ว CPALL ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการปรับประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี ในปี 67-69 จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 ที่ดีกว่าคาด อันเนื่องมาจากอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจหลักทั้งสามกลุ่มของ CPALL ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven), ค้าส่ง (Makro) และไฮเปอร์มาร์เก็ต (Lotus’s) ยังคงแข็งแกร่ง โดย EPS คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี ในปี 68-69

อย่างไรก็ตาม ความกังวลด้าน ESG ส่งผลให้มีการเพิ่มส่วนลดความเสี่ยง 1% ผ่านอัตราคิดลด (WACC) ซึ่งทำให้ราคาเป้าหมายปี 68 ของ CPALL ลดลงจาก 73 บาท เหลือ 63 บาท โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ CPALL ถือหุ้น 60% ในบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ซึ่งมีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ Happitat ของเครือ CP อีกทั้ง การศึกษาความเป็นไปได้ของดีล MBO Seven & i ยังเพิ่มความกังวลด้าน ESG ให้กับตลาด

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา CPALL เคยลงทุนใน Makro และ Tesco Lotus ในราคาสูง ทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นและต้องใช้เวลาหลายปีในการลดหนี้ ดีล MBO ของ Seven & i ในครั้งนี้มีมูลค่ามหาศาล โดยสูงกว่าการเสนอซื้อกิจการของ Couche-Tard ที่ 7.5 ล้านล้านเยน ถึง 20% และสูงกว่ามูลค่าตลาดปัจจุบันของ Seven & i อยู่ที่ 6.2 ล้านล้านเยน ถึง 45% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารจัดการภาระหนี้ของ CPALL ในอนาคต

Back to top button