
TNL มั่นใจปี 68 โตต่อ ลุยขยายพอร์ต “สินเชื่อ” แตะ 7.1 พันล้าน
TNL เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อแตะ 7,100 ล้านบาท พร้อมลงทุนซื้อหนี้เสียเพิ่มอีก 1,200 ล้านบาท รองรับโอกาสในตลาดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ลุยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแผน หวังดันยอดโอนทะลุ 6,000 ล้านบาท สร้างการเติบโตระยะยาว
นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ และบีทีเอส กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 ของบริษัท ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,602 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้พิเศษในปี 2566 กำไรสุทธิเติบโต 29% หรือเพิ่มขึ้น 89 ล้านบาท จากปีก่อน สะท้อนถึงศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัท ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจให้สินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท จำกัด (OXA) ที่สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้เกินเป้า โดยมีมูลค่าสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2567 แตะ 6,430 ล้านบาท สะท้อนถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อแม้เผชิญความท้าทายต่าง ๆ โดยบริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยขยายฐานลูกค้ากลุ่มนิติบุคคลและบุคคล High Net Worth ที่มีคุณภาพสูงเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพอร์ตสินเชื่อ
ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs/NPAs) ดำเนินงานโดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ ออกซิเจน จำกัด (OAM) ในปี 2567 ถือปีแรกของการดำเนินงานเต็มรูปแบบ ซึ่งบริษัทสามารถขยายยอดหนี้ภายใต้การบริหารเป็น 5,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 51% จากปีก่อน ด้วยอัตราชนะประมูล 45% ตอกย้ำศักยภาพทางการแข่งขันของบริษัทในฐานะผู้เล่นสำคัญในตลาด AMC
สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ที่ดำเนินงานโดยบริษัท ทีเอ็นแอน อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) สามารถรักษารายได้ที่มั่นคง พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผนที่วางไว้ โดยมีความคืบหน้าในการก่อสร้างและการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
“ปี 2567 นับเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างธุรกิจที่สำคัญของ TNL โดยบริษัทได้ดำเนินการขายหุ้นใน TNLX (ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย) เพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักด้านบริการทางการเงินและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (New Growth Engines) ซึ่งมีศักยภาพเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ TNL ยังได้เปิดตัว Oxygen Advisory ซึ่งเป็นธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ และเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม (Fee-based income) จากบริการให้คำปรึกษาด้านโครงสร้างเงินทุน การปรับโครงสร้างหนี้ และการวิเคราะห์โอกาสการลงทุน” นายกิตติชัย กล่าว
นายกิตติชัย ยังได้ให้มุมมองถึงแนวโน้มธุรกิจและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2568 ว่า บริษัท คาดการณ์ว่าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อจะสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการจัดการคุณภาพสินทรัพย์และการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบ โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นเป็น 7,100 ล้านบาท
ขณะเดียวกันด้านตลาดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้ เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินมีแนวโน้มเร่งระบายหนี้เสียออกจากระบบเพื่อลดแรงกดดันจากการตั้งสำรองและปรับพอร์ตสินเชื่อให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดเงินลงทุนซื้อหนี้ NPL เพิ่มขึ้นอีก 1,200 ล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตการบริหารหนี้สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
สำหรับในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายนั้น บริษัทจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน แม้สภาพตลาดจะเผชิญความท้าทาย แต่บริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของแต่ละโครงการ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเป้าหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากหลายโครงการกำลังก่อสร้างแล้วเสร็จ บริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดโอนได้กว่า 6,000 ล้านบาทในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ พร้อมเดินหน้าบริหารโครงการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“TNL ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพอร์ตสินเชื่อและพอร์ต NPL ควบคู่กับกลยุทธ์การลงทุนที่รอบคอบ เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับศักยภาพของธุรกิจหลัก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว” นายกิตติชัย กล่าว