SET บ่ายร่วง 21 จุด แรงขายหุ้น “บลูชิพ” นักลงทุนจับตาผลประชุม กนง. พรุ่งนี้

SET บ่ายร่วง 21 จุด หลังนักลงทุนเทขายหุ้นใหญ่ พ่วงจับตาผลประชุม กนง. พรุ่งนี้ โบรกมองกรอบแนวรับที่ 1,210 1,200 จุด แนวต้าน 1,225-1,235 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (25 ก.พ.68) ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 14:17 น. อยู่ที่ 1,215.08 จุด ลบ 20.77 จุด หรือ 1.68% สูงสุดที่ระดับ 1,231.48 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,212.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,257.30 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดการณ์ SET Index ยังเคลื่อนไหวในแดนลบ ด้วย Sentiment ลบ ของตลาดหุ้นภูมิภาคกระตุ้นแรงขายแบบกระจายตัวในตลาด โดยดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1,210- 1,200 จุด ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,225-1,235 จุด

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า SET Index แนวโน้ม ราคาคงทำ New Low ควรหลีกเลี้ยงฝั่งซื้อออกไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นกลยุทธ์ รอสัญญาณการกลับตัวขึ้นให้ชัดเจนหรือหาจังหวะซื้อเก็งกําไรรีบาวด์ โดยเลือกเป็นรายตัว รายกลุ่ม

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาด SET Index ยังแกว่งตัวในแดนลบ ในกรอบ 1,210 – 1,220 จุด โดยมองแรงกดดันมาจาก 1.) แรงขายหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT AOT COM7 และ MOSHI ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินบาทสู่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ และเห็นการเข้าซื้อในตลาดพันธบัตรกว่า 1.68 พันล้านบาท

โดยคาดการณ์สะท้อนการคาดการณ์ของตลาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ทำให้นักลงทุนลดการถือครองค่าเงินบาท และเพิ่มการถือครองพันธบัตรระยะยาวเพื่อได้รับ Yields ที่สูงขึ้นในระยะถัดไป

2.) ภาพลบจากภายนอกหลังหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐปรับตัวลงรับความกังวลโมเดล AI ต้นทุนต่ำ จาก Deepseek และ ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าในยุคของ ปธน.ทรัมป์

ขณะที่แรงหนุนมาจากตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค. 68 ที่ขยายตัว 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจาก อุปสงค์ต่างประเทศที่เร่งตัวจากความกังวลประเด็นสงครามการค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯและจีน, ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกที่เติบโตต่อเนื่อง, สัญญาณการปรับดีขึ้นของภาคการผลิตโลกที่กลับมาอยู่ในภาวะขยายตัวในเดือนม.ค.68 และ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจร้านอาหารหนุนความต้องการนำเข้าสินค้ากษตรและอาหาร

ด้านสินค้าที่ยังขยายตัวได้ดีได้แก่ ยางพารา ขยายตัว 15 เดือนต่อเนื่อง และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง, ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ขยายตัว 13 เดือนต่อเนื่อง, ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 16 เดือนต่อเนื่อง, อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 16 เดือนต่อเนื่อง, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง, อัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 10 เดือนต่อเนื่อง, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ขยายตัว 11 เดือนต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง ด้านปัจจัยอื่นคืนนี้ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ คือ CB Consumer Confidence เดือน ก.พ.68

Back to top button