
MASTER โชว์กำไรปี 67 โต 25% แตะ 522 ล้านบาท แจกปันผล 0.80 บาท
MASTER รายงานกำไรปี 67 โต 25% แตะ 522 ล้านบาท รับรายได้เพิ่ม พร้อมแจกปันผล 0.80 บาท ขึ้น XD วันที่ 11 มี.ค.68 และกำหนดจ่าย 9 พ.ค.68
บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 67 สิ้นสุด 31 ธ.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยบริษัทฯ เปิดเผยผลประกอบการสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลรวม 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 11.4 จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ รายได้จากการศัลยกรรมมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขึ้น 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13 จากปี 2566 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตมาจากรายได้จากหัตถการด้านสุขภาพชาย การศัลยกรรมยกคิ้ว และศัลยกรรมใบหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์การตลาดที่ขยายไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินโดนีเซีย เมียนมา และจีน
สำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีต้นทุนจากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลรวม 855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 9 จากปี 2566 โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนยา เวชภัณฑ์ และวัสดุสิ้นเปลืองที่เพิ่มขึ้น 53 ล้านบาท รวมถึงค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท เนื่องจากการขยายจำนวนบุคลากร นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคาจากห้องผ่าตัดและเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ โดยมีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท หรือร้อยละ 13 จากปี 2566 อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 59.05 ในปี 2566 เป็นร้อยละ 59.93 ในปี 2567
ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขาย ปี 2567 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม 384 ล้านบาท ลดลง 13 ล้านบาท หรือร้อยละ 3 จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ลดการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทฯ อยู่ที่ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท หรือร้อยละ 34 จากปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นเงินเดือนและการขยายจำนวนบุคลากรฝ่ายบริหาร นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคาจากอาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 52 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาด้านการลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เป็นเงินสด 0.80 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 11 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผล 9 พฤษภาคม 2568