CGH งบปี 67 พลิกกำไร 253 ล้านบาท รับรายได้ “ค่าฟี-สินทรัพย์ดิจิทัล” พุ่ง

บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 67 สิ้นสุด 31 ธ.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทฯ รายงานการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จำนวน 48.24 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 44.82 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมอื่น ซึ่งขยายตัวร้อยละ 124.91 สาเหตุหลักมาจากค่าธรรมเนียมตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 176.63 สอดคล้องกับมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management) และการเติบโตของรายได้จากที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.42 อย่างไรก็ตาม รายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง ร้อยละ 23.94 ตามมูลค่าการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของตลาดที่ลดลง

ในส่วนของรายได้ดอกเบี้ย บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 54.66 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 27.21 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด และการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยพิเศษจากเงินลงทุนในหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัท

กำไร (ขาดทุน) และผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 128.20 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 179.30 ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุน 207.72 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 79.78 ล้านบาท สืบเนื่องจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวันที่ลดลงในตลาด

กำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัล ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 215.65 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4,038.39 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้จากการขายเหรียญดิจิทัลของบริษัทฯ 156.42 ล้านบาท รวมถึงผลตอบแทนจากการฝากเหรียญดิจิทัล 41.94 ล้านบาท และการกลับรายการปรับมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล 17.29 ล้านบาท

กำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม เติบโต 263.58 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 100 เมื่อเทียบกับปีก่อน อันเป็นผลจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 31,357,850 หุ้น ให้กับนักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ รายได้อื่น ของบริษัทฯ ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.08 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 33.67 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับมูลค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินลงทุนในต่างประเทศของบริษัท

จากปัจจัยข้างต้น สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทฯ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ตลอดจนกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์และการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ