HTECH วิ่ง 3% รับกำไรปี 67 โตกว่า 2 เท่าตัว แจกปันผล 0.085 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ณ เวลา 10:17 น. อยู่ที่ระดับ 3.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.86% สูงสุดที่ระดับ 3.72 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.66 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้นหลังรายงานผลการดำเนินงานงวดปี 67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยรายงานผลประกอบการปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีรายได้รวม 1,248.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193.14 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 18.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้หลักมาจากการขายและบริการซึ่งอยู่ที่ 1,225.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176.25 ล้านบาท หรือ 16.80% จากปี 2566

บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 125.05 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 113.63 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.02% และ 9.10% ของรายได้รวม ตามลำดับ ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 3.94% และ 3.16%

ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัดโลหะเฉพาะทาง (Special Cutting Tools) มีรายได้จากลูกค้าภายนอก 651.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.64 ล้านบาท หรือ 27.55% จากปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากโรงงานของบริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยในเวียดนาม (Halcyon Technology Vietnam Co., Ltd. หรือ “HV”) รวมถึงบริษัทย่อยในสหรัฐอเมริกา (Mastertech Diamond Products Company หรือ “MDP”)

การเติบโตของรายได้ในส่วนนี้ได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Coolant Distribution Unit – CDU) ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 78.91 ล้านบาทจากปีก่อน

ขณะที่บริษัทย่อย MDP รายงานรายได้เพิ่มขึ้น 55.04 ล้านบาทจากปีก่อน เนื่องจากการขยายฐานลูกค้าใหม่หลังจากมีการจ้างพนักงานขายเพิ่มเติม ด้านโรงงานของบริษัทย่อย HV ก็มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 6.69 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทฯ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถจัดหาวัตถุดิบในราคาที่ต่ำลง รวมถึงการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ Special Cutting Tools ปรับตัวดีขึ้นจาก 30.03% ในปีก่อน เป็น 39.99% ของรายได้จากการขาย

นอกจากนี้ รายได้อื่นของธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้น 14.56 ล้านบาท จากการจำหน่ายเครื่องจักรของบริษัทแม่ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปี 2567 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 1.08% เป็น 12.98% ของรายได้รวม

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการจ้างพนักงานขายเพิ่มเติม รวมถึงการปรับขึ้นเงินเดือนและโบนัสจากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ของบริษัทใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI สิ้นสุดลงตั้งแต่ปี 2566

ด้านธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือตัดโลหะมีรายได้จากลูกค้าภายนอก 499.33 ล้านบาท ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 36.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 7.88% จากปีก่อน โดยรายได้ส่วนนี้มาจากบริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศ รวม 7 แห่ง ซึ่งดำเนินธุรกิจในลักษณะซื้อมา-ขายไปทั้งหมด

แม้ว่าบริษัท เอฟ ดี เอ็ม เทคโนโลยี จำกัด และ Halcyon Technology (M) Sdn. Bhd. ในมาเลเซียจะมีรายได้ลดลงจากการย้ายฐานลูกค้าในไตรมาส 4 แต่บริษัทย่อยอีก 5 แห่งยังคงมีรายได้เติบโต จากอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการเริ่มนำเสนอโครงการ Inventory Information Management System (iiMS) ซึ่งเป็นระบบบริหารคลังสินค้าแบบครบวงจร ทำให้บริษัทสามารถขยายกลุ่มสินค้านอกเหนือจากเครื่องมือตัดโลหะไปยังสินค้าอื่นๆ ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม สร้างรายได้เสริมเพิ่มเติม

สำหรับปี 2567 ส่วนงานนี้มีกำไรสุทธิ 25.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 20.68 ล้านบาทในปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.05% และ 4.45% ของรายได้รวม ตามลำดับ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 31% แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางการตลาด ค่าคอมมิชชั่นที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ และการลงทุนเพื่อส่งเสริมโครงการ iiMS

ในระยะต่อไป บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาขยายฐานลูกค้าสำหรับโครงการ iiMS และพัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูลคลังสินค้า ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้และกำไรให้เติบโตในปี 2568 เป็นต้นไป โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโครงการให้ลดลงได้เมื่อมีลูกค้าเข้าร่วมมากขึ้น

ด้านบริษัท แฮลเซี่ยน เมทอล จำกัด (“HM”) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์และชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป รายงานรายได้จากลูกค้าภายนอก 74.60 ล้านบาท ในปี 2567 ลดลง 0.87 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.15% จากปีก่อน

ลูกค้าหลักของบริษัทในธุรกิจนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตดีหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/2567 มีการประท้วงของผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลงชั่วคราว และอาจมีผลต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2568 แม้ว่าการประท้วงจะสิ้นสุดลงแล้ว

ในปี 2567 ส่วนงานนี้มีกำไรสุทธิ 12.77 ล้านบาท ลดลงจาก 15.39 ล้านบาทในปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 16.93% และ 20.10% ของรายได้รวม ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงและโบนัสของพนักงาน รวมถึงขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

บริษัทฯ คาดว่าหากสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการบินกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รายได้ของส่วนงานนี้จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2568

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค.67-31 ธ.ค.67 เป็นเงินสด 0.085 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 12 มี.ค.68 และกำหนดจ่ายปันผล 20 พ.ค.68