GRAMMY รูดติดฟลอร์! นักลงทุนขายลดเสี่ยง หลังงดปันผลนำเงินจ่ายหนี้

GRAMMY ร่วงติดฟลอร์ นักลงทุนขายลดความเสี่ยง หลังรายงานงบปี 67 ออกมาพลิกมีกำไร 195 ล้านบาท แต่งดจ่ายปันผลเพื่อทำเงินไปชำระหนี้หุ้นกู้-ขยายกิจการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ณ เวลา 10:34 น. อยู่ที่ระดับ 4.96 บาท ลบ 1.99 บาท หรือ 28.63% สูงสุดที่ระดับ 6.05 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.88 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.69 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น GRAMMY ปรับตัวลดลงหนักวันนี้ คาดการณ์ว่าเป็นการขายทำกำไร หลังรายงานผลประกอบการงวดปี 67 ออกมาพลิกมีกำไร ดังนี้

ทั้งนี้ บริษัทรายงานผลประกอบการประจำปี โดยมีรายได้รวม 6,237.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 249.1 ล้านบาท หรือ 4.2% จากปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 6,165.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234.0 ล้านบาท หรือ 39.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ด้านการเติบโตของรายได้ได้รับแรงหนุนหลักจากธุรกิจภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น 341.5 ล้านบาท หรือ 96.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ซึ่งเข้าฉายตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 และได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนธุรกิจเพลงมีรายได้เพิ่มขึ้น 133.5 ล้านบาท หรือ 3.4% โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้กลุ่มคอนเสิร์ตที่เติบโต 169.0 ล้านบาท จากการจัดคอนเสิร์ตของ ปาล์มมี่ และ Bodyslam ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในปีที่ผ่านมา

ในทางกลับกัน รายได้จากกลุ่มโฮมช้อปปิ้งลดลง 203.2 ล้านบาท คิดเป็น 14.8% ขณะที่รายได้จากกลุ่มทีวีดาวเทียมลดลง 24.7 ล้านบาท หรือ 16.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 2,514.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.5 ล้านบาท หรือ 9.4% โดยการเติบโตนี้ได้รับอานิสงส์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจภาพยนตร์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับกำไรพิเศษจากการขายหุ้น GMM Music ให้แก่นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ 2 ราย มูลค่ารวม 2,815.4 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการอยู่ที่ 2,660.7 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ สะท้อนถึงการเติบโตในธุรกิจภาพยนตร์และเพลง ซึ่งเป็นสองเสาหลักสำคัญของบริษัท ขณะที่ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งและทีวีดาวเทียมยังคงเผชิญความท้าทาย อย่างไรก็ตาม การขายหุ้น GMM Music ช่วยเสริมสร้างสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นสมควรให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ พิจารณาอนุมัติงดจ่ายเงินปันผลจาก ผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ถึงแม้ว่า บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิจำนวน 2,660.7 ล้านบาท และมีกำไรสะสมจำนวน 3,163.2 ล้านบาทตามลำดับในงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งมีกำไรจำนวนมาก แต่บริษัทฯ ได้นำเงินส่วนใหญ่ไปชำระคืนเงินกู้ที่มีทั้งหมด รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เติบโตเพิ่มเติม และเพื่อให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯ

Back to top button