
SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาภาษีการค้าสหรัฐฯ-ประชุมสภาจีน-ECB ชู BH-BCH- CPALL หุ้นเด่น
“บล.กรุงศรี” ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” โดยมีแนวต้าน 1,220-1,230 จุด และแนวรับ 1,187-1,173 จุด จับตาการบังคับใช้ภาษีการค้าสหรัฐฯ-ประชุมสภาของจีน-ECB ชู BH-BCH- CPALL หุ้นเด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (3-7 มี.ค.68) จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS โดยประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” โดยมีแนวต้าน 1,220-1,230 จุด และแนวรับ 1,187-1,173 จุด
โดยปัจจุบันตลาดหุ้นไทยอยู่ในโซน Deep Value Equity Risk Premium ที่ระดับ 4.97% ใกล้เคียงกับ 5% (+2SD หรือ Implied SET ที่ 1,180 จุด) ซึ่งระดับนี้เคยพบในช่วงวิกฤติรุนแรงในอดีต เช่น น้ำท่วมใหญ่, COVID-19, และ Sub-prime Crisis ทำให้ตลาดพร้อมที่จะฟื้นตัวในสัปดาห์นี้
ส่วนประเด็นที่ต้องจับตามาตรการการค้าใหม่จากสหรัฐฯจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ต่อเม็กซิโก, แคนาดา, และจีน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 155,000 ราย จาก 143,000 รายในครั้งก่อน ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานคาดว่าจะคงที่ที่ 4.0% และ ISM PMI ภาคผลิตในเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะอยู่ที่ 50.0 จุด เทียบกับ 50.3 จุดในครั้งก่อน
นอกจากนี้ติดตามการประชุมของ ECB ในวันที่ 6 มี.ค. คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps สู่ 2.5% และการประชุมสองสภาประจำปีของจีนในวันที่ 4 มี.ค. คาดว่าจะมีการประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจที่สำคัญ และ PMI ภาคผลิตจีนในวันที่ 3 มี.ค. คาดว่าจะอยู่ที่ 50.5 จุด เทียบกับ 50.1 จุดในครั้งก่อน และ PMI ภาคบริการในวันที่ 5 มี.ค. คาดว่าจะอยู่ที่ 51.0 จุด เท่ากับเดือนก่อน
ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามเงินเฟ้อ CPI ทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยคาดว่าอยู่ที่ +1.32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 0.1%เทียบเดือนก่อนหน้า
โดยกลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ หุ้น Domestic ที่ได้รับประโยชน์จาก Yield ลง, Defensive หรือ Deep Value เช่น CPALL, HMPRO, BH, BDMS, MINT, SCGP, และ GPSC ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้แนะนำหุ้น BH, BCH, และ CPALL
โดย BH แนะนำราคาเป้าหมาย 260 บาท หุ้นที่มีพื้นฐานแกร่งและมั่นคงในระยะกลางถึงยาว คาดว่าจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่มีการฟื้นตัวเร็วที่สุด ส่วน BCH แนะนำราคาเป้าหมาย 19 บาท ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตในปี 2568 ที่ 14.6% และ CPALL แนะนำราคาเป้าหมาย 80 บาท คาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่องที่ 15% ในปี 2568 โดย PER25F อยู่ที่ 18 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25 เท่า