‘นิสสัน’ เปลี่ยนแม่ทัพกลางศึก.!

หลังแผนเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง Nissan Motor กับ Honda Motor มีอันต้องล่มลงไป ทำให้ Nissan Motor กลับมาโฟกัสเรื่องปรับเปลี่ยนซีอีโอคนใหม่


หลังแผนเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง Nissan Motor กับ Honda Motor มีอันต้องล่มลงไป ทำให้ Nissan Motor กลับมาโฟกัสเรื่องปรับเปลี่ยนซีอีโอคนใหม่ “มาโกโตะ อุจิดะ” ที่ดำรงตำแหน่ง มาตั้งแต่ปี 2562 และทำงานให้กับบริษัทมานานถึง 22 ปี

“มาโกโตะ อุจิดะ” ประกาศพร้อมสละตำแหน่ง หลังผลประกอบการ Nissan Motor มีผลขาดทุนสุทธิ 80,000 ล้านเยน (ประมาณ 18,185 ล้านบาท)

การพยายามเปลี่ยนแปลงซีอีโอใหม่ แสดงให้เห็นว่า Nissan Motor มีความสามารถในการหาพันธมิตรเพื่อความอยู่รอดและคาดการณ์ว่า “เจเรมี ปาปิน” อาจถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ หลังจากเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ช่วงเดือนธ.ค. 67 ที่ผ่านมา 

ล่าสุด Nissan Motor กำลังเผชิญกับหนี้ก้อนใหญ่ที่จะครบกำหนดปีหน้า พร้อมการปรับลดเครดิตลงอย่างมากโดยสามสถาบันจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ หลังจากสัปดาห์ก่อนนี้มีการปรับลดถึง 2 ครั้ง โดย “มาโกโตะ อุจิดะ” ขอความช่วยเหลือกับ Nissan Motor ช่วงปีที่ผ่านมา และทำสัญญาต่าง ๆ เพื่อสร้างบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน

แต่การเจรจามีอันต้องจบลงไป..หลังจากทั้ง 2 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้..!!

อย่างไรก็ดีเหล่าผู้บริหาร Nissan Motor และ Honda Motor ระบุว่าจะยังร่วมมือกันกับ Mitsubishi Motor เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่และซอฟต์แวร์ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา “อุจิดะ” เน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกัน โดยกล่าวว่า ธุรกิจบริษัทอาจไปไม่รอด หากไม่มีพันธมิตรให้พึ่งพาในอนาคต..

ทว่า Nissan Motor มีปัญหาเรื่องการดึงดูดลูกค้า เนื่องจากดีไซน์รถยนต์ที่ล้าสมัย ทำให้บริษัทมีการลงทุนมหาศาลเพื่อจัดทำโปรโมชันและจูงใจเหล่าลูกค้า เพื่อควบคุมปริมาณรถยนต์ของตัวเอง และประกาศแผนการลดจำนวนพนักงาน 9,000 คน และปิดโรงงานผลิตลงมากถึง 5 แห่ง 

ด้าน “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” และพันธมิตรยาวนานของนิสสัน อย่าง “เรโนลต์ เอสเอ” ออกมาวิจารณ์ข้อตกลงการรวมบริษัทของฮอนด้าและชื่นชมนิสสันที่ปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว แต่ว่า “เรโนลต์” เองพยายามตัดความสัมพันธ์กับนิสสัน โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลูก้า เดอ เมโอ ระบุว่า “จีลี่ ออโตโมบิล” ของจีนอาจเป็นพันธมิตรที่ดีกว่า..

นอกเหนือจาก Honda Motor ผู้ผลิตไอโฟนจากไต้หวัน อย่าง “ฟ็อกซ์คอนน์” ยังติดต่อเข้าซื้อหุ้น Nissan Motor เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และประกาศว่าจะซื้อหุ้น 36% ที่ “เรโนลต์” ถืออยู่

ด้วยบริษัทตั้งเป้าสร้างฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หลังประสบปัญหาในการโน้มน้าวบริษัทรถยนต์ให้จ้างบุคคล ภายนอกมาผลิตแทน

เมื่อต้นเดือนก.พ. 68 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าบริษัทกองทุนบริหารหุ้นเอกชน KKR & Co ของสหรัฐฯ ยังพิจารณาที่จะลงทุนซื้อหุ้นหรือหนี้ Nissan Motor เพื่อเพิ่มสถานะทางการเงินให้บริษัท

การ “เปลี่ยนม้ากลางศึก” เช่นนี้ ถือว่า Nissan Motor เผชิญความท้าทายยิ่ง..หลังพ่ายแพ้ต่อค่ายยานยนต์จีนอย่างราบคาบมาแล้ว..!!??

Back to top button