
สังคมข่าวหุ้น
ตลาดหุ้นวานนี้ (4 มี.ค.) ปิดร่วง 10.77 จุด แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ กังวลสงครามการค้าหลังจีนตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีการค้าส่วนเพิ่มอีก 15%
ตลาดหุ้นวานนี้ (4 มี.ค.) ปิดร่วง 10.77 จุด แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ กังวลสงครามการค้าหลังจีนตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีการค้าส่วนเพิ่มอีก 15% สำหรับสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ส่วนในประเทศกอง TESG 2 ช่วยชะลอแรงขายไม่มาก นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 884.39 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,172.44 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันนี้แกว่งลง แนวรับ 1,156-1,130 จุด แนวต้าน 1,200-1,210 จุด
ไม่พูดถึงเจ๊คงตกกระแสมาก สำหรับประเด็นเรื่อง LTF ที่จะอัพเกรด TESGX ล่าสุด บล.ทิสโก้ มองว่า TESGX กองใหม่ช่วยกำจัดความเสี่ยงขาลง มองหุ้นที่ได้ประโยชน์หลักคือ หุ้นที่กอง LTF ถือครองอยู่เป็นจำนวนมาก และมี ESG Rating ระดับ A ขึ้นไป หุ้นเด่นในเชิงกลยุทธ์ ADVANC ราคาเป้าหมาย 307 บาท, CPALL ราคาเป้าหมาย 84 บาท, PTT ราคาเป้าหมาย 35 บาท, SCB ราคาเป้าหมาย 131 บาท และ BDMS ราคาเป้าหมาย 33 บาท
“กองทรัสต์ KTBSTMR” เตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนงวดไตรมาส 4/2567 อัตรา 0.1760 บาทต่อหน่วยทรัสต์ เป็นเงิน 53.06 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยเตรียมรับเงิน 28 มี.ค. 2568 ย้ำสินทรัพย์มีคุณภาพ สร้างผลดำเนินงานที่ดีท่ามกลางดอกเบี้ยสูงกระทบผู้เช่าบางราย พร้อมเปิดรับการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ตั้งเป้าหมายปี 2568 ยอดขายโต 2 หลัก รับปริมาณผลิต-ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น มั่นใจ EBITDA ดีกว่าปีก่อน ขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่ 100 แห่ง หวังดันมาร์เก็ตแชร์แตะ 30% ทุ่มงบลงทุน 5 หมื่นล้านบาท พร้อมลุย 2 โครงการใหญ่ ทั้งพลังงานลมเวียดนาม-เหมืองโปแตชกว่า 9 พันล้านบาท แถมบอกอีกด้วยนะเจ้าคะว่ายังไม่มีแผนทำโครงการซื้อหุ้นคืน
“เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP)” เตรียมงบลงทุน 13,000 ล้านบาท ขยายการลงทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร เพิ่มการเติบโตในบรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค โฟกัสตลาดภายในประเทศกลุ่มอาเซียน คาดความต้องการบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นรับการเติบโตเศรษฐกิจ พร้อมรุกขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เจาะตลาดศักยภาพสูง สร้างการเติบโตต่อเนื่อง
ถือว่าเกือบครบสำหรับการแจ้งงบไตรมาส 4/2567 และงบปี 2567 สำหรับ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้เจ๊จะมาแอบบอก 5 บริษัท “อสังหาฯ” ผู้แข็งแกร่ง รายได้-กำไรโต ท่ามกลางวิกฤต ที่รายงานกำไรประจำปี 2567 ออกมาเติบโตอย่างชัดเจน นำโดย ANAN ที่ล่าสุดรายงานกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิกว่า 887 ล้านบาท ตามด้วย SA ที่รายงานกำไรสุทธิ 386 ล้านบาท เติบโต 100% จากปีก่อน ตามรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกบริษัท คือ ASW มีกำไรสุทธิ 1,456 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการจํานวน 9,791.58 ล้านบาท ต่อมา ESTAR รายงานกำไรสุทธิเติบโตราว 13% โดยบริษัทรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 50% และสุดท้าย SPALI รายงานกำไรสุทธิ 6,189 ล้านบาท เติบโตราว 3% จากปีก่อน และมีรายได้รวม 31,984.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน รอบหน้าเจ๊จะมาสรุปกลุ่มอื่นให้อ่านอีกนะเจ้าคะ
ดวงดี