แชมป์ตัวจริง(ซะที) แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
เป็นที่กังขามานานหลายปีแล้วว่า ใครคือแชมป์ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตัวจริงของตลาดเมืองไทย เพราะปลายปีท่านมา แชมป์ยอดขาย อยู่ในกำมือเบ็ดเสร็จของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS แน่นอนไม่มีข้อสงัสย แต่กำไรสุทธิน่ะสิ ยังไม่สามารถแซงหน้าเจ้าตลาดดั้งเดิมอย่าง บรัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ที่รักษาแชมป์ชนิดไร้เทียมทานมาตลอด
เป็นที่กังขามานานหลายปีแล้วว่า ใครคือแชมป์ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตัวจริงของตลาดเมืองไทย เพราะปลายปีท่านมา แชมป์ยอดขาย อยู่ในกำมือเบ็ดเสร็จของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS แน่นอนไม่มีข้อสงัสย แต่กำไรสุทธิน่ะสิ ยังไม่สามารถแซงหน้าเจ้าตลาดดั้งเดิมอย่าง บรัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ที่รักษาแชมป์ชนิดไร้เทียมทานมาตลอด
นี่ยังไม่นับเครือข่าย LH อย่าง บริษัท ควอลิตี้ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH อีกรายหนึ่งที่ก็ใหญ่ในระดับหัวแถวเช่นกันของวงการ เพราะหากรวมกันแล้ว PS ก็น่าจะมีกำไรต่ำกว่าเสมอ เนื่องจากนับรวมแบบ 2 รุม 1
ปีนี้ ครึ่งแรกของปี ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ PS ยังทำยอดขายได้โดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งอีกเช่นเดิม แม้จะไม่ได้ทำโครงการระดับบนสุด แตเน้นระดับกลางและล่างเป็นสำคัญ โดยมีกำไรสุทธิเริ่มแซงหน้าขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะมากกว่าเพียงเล็กน้อยก็ตาม ต้องมาลุ้นในครึ่งหลังของปีอีกครั้ง
แม้ว่าตัวเลขที่แท้จริงจะไม่ออกมา จนถึงบ่ายวันนี้ แต่นักวิเคราะห์หลายค่ายก็ประเมินล่วงหน้าอกมาแล้วว่า งวดบัญชีสิ้นปี 2558 จะมีกำไรสุทธิเป็น 7,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 6,700 ล้านบาท
เหตุผลก็เพราะว่า แนวโน้มรายงานรายได้อยู่ที่ 50,274 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ 47,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ทั้งการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและลดค่าจำนองเหลือ 0.01%
ถือว่าทั้ง เก่ง และ เฮง ผสมกัน
เมื่อกำไรสุทธิโตมากขึ้น การจ่ายปันผลก็คงต้องเพิ่มตามไปด้วย เพราะไม่ได้มีการเพิ่มทุนอะไรในปีที่ผ่านมา ซึ่งนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ PS ซึ่งเป็นอดีตนายธนาคารเก่า…ออกมายืนยันแล้วว่า การจ่ายปันผลในช่วงครึ่งปีหลังของงวด จะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่บริษัทจ่ายเงินปันผลแล้วในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่า อัตราการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปีต้องมากกว่า 1 บาทต่อหุ้น โดยนักวิคราะห์บางสำนักประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ยอดรวมทั้งปี 1.68 บาท ยีลด์เกือบ 7%
หากเป็นไปตามที่ว่า เท่ากับจ่ายปันผลครึ่งหลังของปี จะตกอยู่ 1.18 บาท ไม่ธรรมดาทีเดียว
นอกจากนั้น ในกรณีไม่อยากได้ปันผล จะรอซื้อเพื่อหาส่วนต่างราคาก็เก็บได้เพราะมีการประเมินว่าราคาเป้าหมายปี 2559 น่าจะอยู่ที่ 38 บาท…แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะราคาที่ว่า อาจจะไม่ถึง เพราะอย่างที่รู้กันว่า ราคาหุ้นตัวนี้ พื้นฐานดีแค่ไหน ก็ไม่เคยวิ่งไปถึงราคาเป้าหมายสักที …เพราะเชียร์ไม่ค่อยขึ้น
เหตุผลที่เชียร์ไม่จขึ้นก็มีคำอธิบายว่า แนวโน้มการเติบโตของฐานกำไรในอนาคตที่จะอยู่ในระดับปกติ เทียบกับอดีตที่มีการเติบโตสูง ทำให้การลงทุนสำหรับ PS ในฐานะที่เป็น Growth Stock มีความน่าสนใจน้อยลง ดังนั้น ต้องชดเชยด้วยผลตอบแทนจากเงินปันผลมากขึ้น
เหมาะจะเป็นหุ้นปันผลมากกว่าหวังส่วนต่างราคา…นี่พูดด้วยความหวังดี
หากมองย้อนกลับไปในอดีต การพุ่งขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ ด้วยยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมภายใต้การบัญชาการของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ที่มุ่งมั่นกับกลยุทธ์ของตนเองคือ ใช้กระแสเงินสดที่มั่นคงแข็งแกร่ง มุ่งสร้างโครงการตามความถนัดโดยไม่สร้างหนี้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในธุรกิจผสมผสานกับเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารที่ทันสมัยเป็นตัวเร่งการตลาดที่มีนัยสำคัญ
แชมป์ทั้งรายได้ และกำไร ….ไม่ใช่ได้มาอย่างบังเอิญแต่อย่างใด…
ไม่น่าอิจฉา แต่น่าชมเชยมากกว่า
เพียงแต่ในอนาคตนั้น หากผู้บริหารไม่ลืมว่า …เหนือฟ้า ยังมีฟ้า …การเป็นแชมป์นั้นก็จะมั่นคงไปเรื่อยๆ