EE แจ้งแก้งบไตรมาส 3/67 ดันสัดส่วนเงินลงทุนเป็น 46%  

EE ได้ดำเนินการแก้ไขงบการเงินประจำปี 2566 และไตรมาส 3 ปี 2567 ตามคำสั่งของสำนักงาน (ก.ล.ต.) ส่งผลให้ส่วนของเงินลงทุนต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 46% แต่ยังคงรักษานโยบายการลงทุนไม่เกิน 40% ตามที่กำหนด


นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ EE ขอแจ้งให้ทราบว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งให้บริษัทฯ แก้ไขงบการเงินปี 2566 และงบการเงินงวดไตรมาส 3 ปี 2567 และให้นำส่งงบการเงิน ฉบับแก้ไขที่ผ่านการตรวจสอบและสอบทานจากผู้สอบบัญชี พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินดังกล่าวผ่านระบบ SETLink ของตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขงบการเงินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

บริษัทฯ ขอเรียนว่าจากการแก้ไขงบการเงินงวดไตรมาส 3 ปี 2567 ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนของเงินลงทุนต่อสินทรัพย์รวม อยู่ที่ร้อยละ 46 ซึ่งเกินกว่าร้อยละ 40 ของสินทรัพย์รวม ตามที่ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.39/2559 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) กำหนด เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับลดส่วนของสินค้าคงเหลือ สินทรัพย์ชีวภาพ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และค่าความนิยมออก จึงทำให้สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ลดลง

อย่างไรก็ดี สำหรับงบการเงินของบริษัทฯ ประจำปี 2567 มีส่วนของเงินลงทุนต่อสินทรัพย์รวม อยู่ที่ร้อยละ 39 ซึ่งยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนด ตามที่บริษัทฯ ได้นำส่งงบการเงินทั้งสองฉบับต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมกันในวันที่ 3 มีนาคม 2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับในการนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้กำหนดนโยบายการลงทุนของบริษัท และได้มีการพิจารณาแผนการบริหารเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ให้มีความเหมาะสม ซึ่งโดยคณะกรรมการบริษัท ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 อนุมัติให้บริษัทฯ จำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่บริษัทฯ ลงทุนไว้ เพื่อให้บริษัทฯ นำทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องเปลี่ยนเป็นเงินสดมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็ว และมอบหมายให้กรรมการผู้จัดการเป็นผู้พิจารณากำหนดราคาจากราคาซื้อขาย และสามารถดำเนินการขายหลักทรัพย์นั้น ๆ เมื่อเห็นว่ามีกำไรจากส่วนต่างอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการติดตามและสังเกตแนวโน้มภาพรวมของตลาดอย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความผันผวนหรือมีเหตุการณ์หรือปัจจัยภายนอกใด ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้ราคาหลักทรัพย์ที่บริษัทฯ ลงทุนลดลงอย่างรวดเร็ว ฝ่ายบริหารจะพิจารณาความเหมาะสมของราคา และช่วงเวลที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีนโยบายให้คงสัดส่วนของเงินลงทุนต่อสินทรัพย์รวมไม่เกินกว่าร้อยละ 40 ของสินทรัพย์รวม ตามที่ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนด

Back to top button