CGSI มอง SET ผันผวน 1,180-1,200 จุด ชู SHR-HANA เด่น

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (7 มี.ค.68) ว่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลง โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.99%, Nasdaq ลดลง 2.61%, S&P500 ลดลง 1.78% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐและสภาวะ Risk off ในกลุ่ม Valuation สูง โดยดัชนี Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 2.94% แตะระดับ 24.87 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2567 โดยกลุ่มหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, หุ้นผู้ผลิตกลุ่มรถยนต์ รวมถึงกลุ่มบริษัทผลิตชิป

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน อยู่ที่ 221,000 ตำแหน่งน้อยกว่าตลาดที่ 233,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 242,000 ตำแหน่ง)

สำหรับด้านตลาดยุโรป ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย (Main Refinancing Rate) 0.25% ลงมาอยู่ที่ 2.65% ตามตลาดคาด ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ตั้งแต่เริ่มวงจรการปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. 2567 พร้อมทั้งปรับลดเป้าหมาย GDP จาก 1.1% เป็น 0.9% ใน 2568

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่ม 0.1% ปิดบวกเล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนระหว่างวันหลังจากรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ จะเพิ่มแรงกดดันสูงสุดด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเพื่อกดดันการส่งออกน้ำมัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ และ Oversupply จากการที่ OPEC+ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย. ตามแผนเดิม

ทั้งนี้ คาดว่า SET Index จะผันผวนอีกครั้งกรอบ 1,180-1,200 จุด แม้เรามองกรอบบริเวณ 1,180-1,200 จุด จะเป็นจังหวะในการ Bottom fishing แต่ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกและภายใน เช่นมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์, สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และ เศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้าและการปรับ GDP ของไทยที่ลดลง ทำให้เรายังมองภาพปัจจุบันเป็นเพียงการเทรดดิ้ง

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ เราแนะนำติดตามดัชนีเงินเฟ้อไทย (CPI) เดือน ก.พ. วันนี้เวลา 13:30 น. ตลาดคาด 1.10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (เดือนก่อน 1.32%), ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ตลาดคาด 0.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (เดือนก่อน 0.83%) เราเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อไทยในปี 2568 อยู่ที่ 1% จากการที่สินค้าไทยยังเผชิญกับการแข่งขันจากสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน, แรงกดดันจากราคาพลังงาน และมาตรการประชานิยมของรัฐ

สำหรับหุ้นแนะนำ ดังนี้     

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เชื่อว่าน่าจะมีกำไรเติบโตเป็นบวกในไตรมาส 1/68 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของรีสอร์ทในไทยและโรงแรมในต่างประเทศและตามฤดูกาล สำหรับปี 68 เชื่อว่ามีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน) ในปี 68 ด้วยงรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งของโรงแรมในไทย, ฟิจิและมอริเชียส ส่วน RevPAR ใน Maldives น่าจะยังเติบโตชะลอตัวท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง (Take profit : 2.46 / Stop loss : 2.0)

บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA แม้ธุรกิจน่าจะเผชิญความท้าทายในครึ่งแรกของปี 68 เริ่มเห็น Risk to reward ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่าจะเห็นการขาดทุนที่ลดลงสำหรับ Powermaster ในกลางปี 68 หลังตัดสินใจหยุดการผลิต Silicon เพราะเสียเปรียบด้านต้นทุน (Take profit : 18.5 / Stop loss : 15.0)