หุ้นเด่น..ราคาต่ำ

สัปดาห์นี้เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ “โมนิก้า” พยายามหาข่าวดีมานำเสนอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับรายย่อย เพราะในมุมพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวในตอนนี้ต้องยอมรับว่า ราคาหุ้นต่ำกว่าความเป็นจริงค่อนข้างมาก ผนวกกับในช่วงที่ผ่านมารายย่อยได้กลายเป็นตัวแบกหุ้นไทยเป็นเวลานาน อีฉันจึงอยากซัพพอร์ตข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะวันนี้หวังจะพึ่งอะไรจากรัฐบาลไม่ได้เลยค่ะคุณแม๊!

คิดดูแล้วกัน!..ขนาดหอการค้ายังดาหน้าออกมาจวกหนักถึงความล่าช้าในการตั้งทีมเจรจาเทรดวอร์ ทั้งที่ได้เสนอแนะรัฐบาลไปเป็นชาติแบบนี้ “โมนิก้า” รับรู้ได้ทันทีว่า ภาคเอกชนต้องช่วยกันระดมความคิด เพื่อช่วยกันนำพาให้รอดจากปัญหาเหล่านี้ไปให้ได้ และสิ่งไหนที่อีฉันเห็นว่าเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อีฉันก็ยินดีที่จะเป็นโทรโข่งช่วยกระจายข่าวสารให้กับทุกฝ่ายนะออเจ้า

เหมือนกับข้อมูลที่อีฉันมีอยู่ในมือมันทำให้รู้ว่า ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่เหมาะต่อการทยอยซื้อสะสม และหนึ่งในนั้นก็คือน้อง BAM ซึ่งเป็นหุ้นที่มีบุ๊กแวลูอยู่ที่ระดับ 13.70 บาท และยังมียีลด์อยู่ที่ระดับ 5% รวมทั้งการเทรดของหุ้นล่าสุดก็อยู่บน PE 13 เท่า “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 6.55 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112 ล้านบาท น่าสนใจมาก ๆ ในช่วงตลาดผันผวนขาลงเจ้าค่ะ

รายถัดมาที่น่าสนใจในแง่ของการเติบโต “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นเล็กพริกขี้หนูอย่าง ITEL แบบไม่ลังเลใจ เพราะเมื่อเทียบกำไรตั้งแต่ปี 65-67 ที่อยู่ในระดับ 251.67 ล้านบาท ปีถัดมาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 272.11 ล้านบาท และในปีล่าสุดอยู่ที่ระดับ 303.99 ล้านบาท ก็ควรเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นเทรดบนพีอีสูง ๆ แต่สิ่งที่อีฉันเห็นคือ หุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 1.58 บาท และเป็นการเทรดบน PE 7 เท่าแบบนี้..มันใช่เหรอคะ

เช่นเดียวกับหุ้นลูกเจี๊ยบ GFPT ก็อยู่ในข่ายหุ้นที่น่าเล่นในมุมของนักลงทุนแวลู เพราะมีบุ๊กอยู่ที่ระดับ 15.43 บาท แถมหุ้นก็เทรดบนพีอี 5 เท่า พ่วงด้วยเงินปันผลในระดับ 2% มันทำให้อีฉันรู้ได้ทันทีว่า หุ้นตัวนี้เหมาะต่อการซื้อลงทุนระยะยาว ผนวกกับการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 8.30 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25 ล้านบาท ก็เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปีแบบนี้..ดาวน์ไซด์ต่ำสุด ๆ แล้วกระมัง!

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นนอกกระแสอย่าง BCPG เพื่อชี้ให้เห็นข้อดีของหุ้นตัวนี้มีอยู่เยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเทรดของหุ้นบน PBV 0.50 เท่า และค่า PE 9.40 เท่า เพียงเท่านี้ก็ชี้ให้เห็นว่า จังหวะนี้เหมาะต่อการทยอยสะสมแบบไม่ต้องสงสัย ประกอบกับ 2 ครั้งก่อนหุ้นลงมาตรงบริเวณ 5 บาทไม่ทันไร ต่อจากนั้นก็เด้งกลับทันที จึงทำให้อีฉันมั่นใจว่า ราคาปิดที่ระดับ 5.75 บาท ไม่เสี่ยงหรอกค่ะ

ส่วนรายที่กำไรหดตัว และราคาหุ้นก็ตอบรับแล้ว โดยตอนนี้กำลังลุ้นให้กลับมาโตอีกครั้ง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น ANI เพื่อชี้ให้เห็น BV 4.21 บาท และ PE 8 เท่า มันเป็นภาพสะท้อนกำไรปี 67 ที่ทำได้ในระดับ 665 ล้านบาทไปแล้ว..หากปี 68 ทำผลงานได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา อีฉันก็เข้าใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.86 บาท เหมาะต่อการลงทุนอย่างแน่นอน และอยากให้นักลงทุนไปลองคำนวณดูว่า จริงไหมคะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น JMT ก็มีมุมที่ทำให้สนใจหลายมุมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุ๊กแวลูที่ระดับ 18.40 บาท หรือการเทรดบน PE 12 เท่า ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ชี้ชัดว่า ความเสี่ยงในการลงทุนมีไม่มาก และถ้ามองการติดตามหนี้ในปี 68 จะดีขึ้นกว่าปีก่อน ก็หมายความว่า การยืนปิดที่ระดับ 14.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 248 ล้านบาท เริ่มมีคนเชื่อผลงานไตรมาส 1 จะออกมาดีนะจ๊ะ

ตบท้ายกันด้วยหุ้นประกันชีวิต BLA เพื่อชี้ให้เห็นอาการแทงกั๊กทั้งขึ้นทั้งลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น มันคือความไม่มั่นใจว่า ราคาหุ้นจะไปได้ไกลแค่ไหน? ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า กำไรในปี 67 ก็ทำได้ดี และระดับที่เทรดหุ้นก็ไม่เกิน PE 10 เท่า หรือแม้กระทั่งบุ๊กแวลูที่ระดับ 28.15 บาท ก็เป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 20 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21 ล้านบาท เหมาะต่อการช้อนหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตนะนายจ๋า!

โมนิก้า: และทีมงาน