เปิด 7 หุ้นกลุ่ม SET100 บวกสวนตลาดฯ หลังรูด 28 จุด

เปิดโผ 7 หุ้นกลุ่ม SET100 บวกสวนตลาดฯ หลังรูด 28 จุด หลุด 1,160 จุด รับแรงเทขายหุ้นใหญ่-กังวลโยบายการค้าสหรัฐไม่แน่นอน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มี.ค.68) ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย ณ เวลา 15:37 น. อยู่ที่ 1,159.13จุด ลดลง 28.50 จุด หรือลดลง 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,375.02 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยในภาคเช้าที่ปรับลดลงกว่า 28 จุด รับแรงเทขายหุ้นใหญ่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดัน จากนโยบายการค้าของสหรัฐที่มีความไม่แน่นอน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตามขณะนี้มีหุ้นในกลุ่ม SET100 จำนวน 7 หลักทรัพย์ที่ยังบวกสวนภาวะตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง คือ KKP,BDMS,SCC,KTB,TU,CPF และ TISCO ตามข้อมูลในตารางด้านล่าง

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่า 28 จุดในช่วงบ่ายรับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐยังเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า คาดว่าในเดือน เม.ย.จะปรับขึ้นภาษีกับกลุ่มประเทศยุโรปและเอเชีย ซึ่งเวียดนามกับไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากสุด ส่งผลให้ภาพรวมตลาดกังวลสงครามการค้าอาจเข้มข้นขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. กดดันสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงมา

ส่วนปัจจัยในประเทศ วานนี้ตลาดขึ้นไปตอบรับการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX แต่การลงทุน Thai ESGX มีเงื่อนไขให้ลงทุนหุ้นที่มี ESG Rating จึงอาจต้องปรับพอร์ตที่ LTF มีอยู่ให้สอดคล้องกับนโยบายลงทุนใหม่ เพราะแม้ว่าจะลงทุนหุ้นใหญ่เหมือน LTF แต่หุ้นบางตัวไม่มี ESG Rating

นายวิจิตร กล่าวว่า ปัจจัยต่างประเทศตอนนี้ไม่ได้ปลดล็อกง่ายๆ หุ้นไทยจึงยังไม่มีปัจจัยบวกที่ดันให้ฟื้นกลับมา  Fund Flow ไม่ได้ไหลออกแค่ไทย แต่เป็นทั้งภูมิภาค โดยโยกไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ พันธบัตร ต้องรอจนกว่ามีสัญญาณฟื้นชัดเจน อย่างไรก็ดี Flow โลกให้น้ำหนักกับ Emerging Market มากขึ้นในระยะกลาง แต่หุ้นไทย จะถูกอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจประกอบด้วย ให้แนวรับ 1,150 จุด แนวต้าน 1,180 จุด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มตลาดภาคบ่ายคาดว่า SET Index ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณ 1,160-1,180 จุด ภายใต้แรงกดดันต่อนโยบายภาษีของ Donald Trump ที่ยังมีความไม่ แน่นอน, ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยตลาดได้ปรับ US recession probabilities เพิ่มขึ้นราว 5-15% ใน 12 เดือนข้างหน้า (อ้างอิงจาก Forbes News)

อีกทั้งหุ้นในประเทศ DELTA (-3.72%) ถูกกดดันจากสภาวะ Risk off ในหุ้น Valuation สูง / TRUE (-6.36%) ตลาดกังวลว่าอาจจะไม่เข้าเกณฑ์ ESG rating หลังการควบรวม กิจการ TRUE-DTAC (มีอายุเพียง 2 ปียังไม่เข้าเกณฑ์ SET ESG ที่กำหนดว่าบริษัท จะต้องเปิดดำเนินการ 3 ปีขึ้นไป)

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ติดตาม 1.) ดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) เดือน ก.พ. คืนนี้ ตลาดคาด 2.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 0.3% เทียบเดือนก่อนหน้า (เดือนม.ค.68 อยู่ที่ 3.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

Back to top button