SKY โชว์แบ็กล็อก 2.3 หมื่นล. แย้มดีลใหม่ M&A ธุรกิจ AI มูลค่า 30 ล้านบาท

SKY มั่นใจธุรกิจปี 68 โตต่อเนื่อง รับอานิสงส์การบิน-ท่องเที่ยวฟื้นตัว เดินหน้าขยายธุรกิจ ICT โชว์แบ็กล็อก 23,000 ล้านบาท แย้มดีล M&A ด้าน AI คาดมูลค่าลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท


นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2568 จะเห็นกลุ่มบริษัท SKY มีการเติบโตอย่างชัดเจน จากการขยายตัวของธุรกิจด้านต่าง ๆ โดยธุรกิจการบิน (Aviation) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ SKY Group ที่อยู่ภายใต้ของ SKY ICT มีการเติบโตอย่าง Organic ปัจจัยจากจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทั่วโลกมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เอเชียมีการเดินทางมากขึ้นกว่าฝั่งยุโรป และเป็นการเดินทางที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

โดยปี 2568 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้นกว่า 10% ขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่เข้าออกประเทศก็มีจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกัน ซึ่งการเติบโตจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกประเทศก็จะทำให้รายได้ของ SKY ICT ที่ได้มาจากโครงการระบบเช็กอินและโหลดกระเป๋าอัตโนมัติที่ใช้ร่วมกันได้ในหลายสายการบิน (CUPPS: Common Use Passenger Processing System) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มีการเติบโตมากขึ้น

ทั้งนี้ ภาพรวมงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันของ SKY Group รวมประมาณ 23,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 6 ปีข้างหน้า ซึ่งปี 2568 จะเห็นการรับรู้รายได้ของ Backlog ประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เริ่มเห็นการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/2568 บางส่วน รวมถึงเห็นโอกาสในการเซ็นสัญญางานโครงการใหม่ ๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชนภายใต้ SKY Group ด้วย เพื่อเป็นการเติม Backlog จากที่ทยอยรับรู้รายได้ ส่วนแผนควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ทาง SKY กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนในบริษัทด้าน AI คาดว่ามูลค่าการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทลูกของ SKY ICT อย่างบริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการเติบโตเช่นกัน จากการเดินหน้างานภาครัฐในส่วนของ ICT เทคโนโลยีการทำแพลตฟอร์มให้กับทางกระทรวงสาธารณสุข หรือการทำ Cloud ขึ้นมาอยู่บน NT Cloud ทั้งการทำแพลตฟอร์ม และ Cloud ภายใต้การเดินหน้าธุรกิจของ PIS รวมถึง ERP ที่มีการขยายธุรกิจต่อเนื่องในส่วนของภาครัฐ ส่งผลทำให้ SKY GROUP เดินหน้าเติบโตไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้าน Metthier ก็มีการเติบโตต่อเนื่อง มีการเพิ่มจำนวน รปภ.และแม่บ้าน เพื่อตอบรับความต้องการของภาคเอกชนที่มีความต้องการจ้าง รปภ. และแม่บ้านมากขึ้น จึงทำให้ SKY Group ในปี 2568 มีภาพการเติบโตที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับ PIS ช่วงไตรมาส 1/2568 ก็จะมีการเซ็นสัญญาโครงการ มูลค่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ในแผนที่ทาง SKY Group เดินหน้าหาโอกาสเข้าประมูลงานภาครัฐกับหลายกระทรวง โดยงบประมาณประจำปี 2568 แต่ละกระทรวงก็ทยอยประกาศให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำ E-Bidding ก็มองว่าเป็นโอกาสการเติบโตของ PIS อย่างชัดเจนจากปีก่อนต่อเนื่องมาปี 2568 และด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ SKY Group มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด SKY ให้การต้อนรับ ผศ.ดร.อรพรรณ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและเครือข่ายพันธมิตร และศาสตราจารย์ ดร.นภดล ร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการโครงการปริญญาโททางบริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนักศึกษาปริญญาโท โครงการ MBA จำนวน 34 คน เข้าศึกษาเยี่ยมชมกลุ่มบริษัท สกาย

นายสิทธิเดช กล่าวว่า SKY ICT  เป็นกลุ่มบริษัทที่มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลายและครบวงจร โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ บริษัทลูก (Subsidiary Company) และ บริษัทร่วม (Affiliated Company) ที่รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนถือหุ้น  สำหรับธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท ได้แก่ ธุรกิจการบิน (Aviation), System Integrator ภาครัฐ, Facility Management Service, Contact Center

สำหรับ SKY ICT  มีวิสัยทัศน์ในการเป็น “The key driving force to transform the society through intelligent technological solution that truly enhance life” หรือ “พลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยโซลูชันเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ยกระดับชีวิตอย่างแท้จริง” โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในทุกธุรกิจของกลุ่ม

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ โดยมองว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยทำงานที่มีมูลค่าต่ำหรือมีความเสี่ยง ในขณะที่แรงงานมนุษย์จะได้รับการพัฒนาทักษะเพื่อทำงานที่มีคุณค่าและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคนหลายรุ่น (Generation Conflict) โดยยอมรับความแตกต่างและจุดแข็งของแต่ละ Generation และสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานร่วมกัน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา SKY ICT มีกลยุทธ์การเติบโตผ่านการ M&A โดยมีการทำ M&A อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อขยายธุรกิจและจำนวนพนักงาน และมีการรวมศูนย์ (Centralization) แผนกสนับสนุนส่วนหลัง (Backend) เพื่อลดความซ้ำซ้อนและสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดการปล่อยมลพิษ (Zero Emission) ภายในองค์กร และนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับอนาคตของเทคโนโลยี AI ในภาคธุรกิจและการศึกษา SKY ICT  มองว่า AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน โดยมีการนำ AI ไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น AI Voice ใน Contact Center และ AI ในระบบกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ บริษัทสนับสนุนการนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในหลากหลายสาขาวิชา เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความเข้าใจในเทคโนโลยี AI (AI literacy) ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศได้

Back to top button