“บจ.mai” กวาดกำไรปี 67 ทะลุ 5.5 พันล้าน ชูกลุ่ม “อุปโภค-บริการ-เทค” เด่นสุด

บริษัทจดทะเบียนใน mai โชว์กำไรปี 67 โต 5.5% แม้ไตรมาส 4 จะมีแรงกดดันจากรายการพิเศษ ขณะที่กลุ่มอุปโภค-บริการ-เทคโนโลยียังเติบโต


นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ใน mai จำนวน 215 บริษัท หรือคิดเป็น 97% ของทั้งหมด 222 บริษัท (ไม่รวมบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (NC) และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) ได้นำส่งผลการดำเนินงานประจำปี 2567 โดยมี 152 บริษัท หรือ 71% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด รายงานกำไรสุทธิ

โดยผลการดำเนินงานปี 2567 ของ บจ. ใน mai เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน พบว่ายอดขายรวมอยู่ที่ 209,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% ต้นทุนขายอยู่ที่ 155,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นจาก 25.1% เป็น 25.7% แม้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แต่ บจ. สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้ 14,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.9% และมีกำไรสุทธิรวม 5,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5%

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า แม้กำไรสุทธิของ บจ. ใน mai จะเติบโตเพียง 5.5% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษ เช่น การตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนหรือสินทรัพย์

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการดังกล่าว กำไรสุทธิของ บจ. จะเติบโตสูงถึง 71.8% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโตทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มเทคโนโลยี

ด้านฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 328,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากสิ้นปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 0.79 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 0.77 เท่า ณ สิ้นปี 2566

ขณะที่ปัจจุบัน ตลาด mai มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 222 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2568) โดยดัชนี mai ปิดที่ระดับ 246.45 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 239,893.40 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 672.37 ล้านบาทต่อวัน

Back to top button