“ดาวโจนส์” ดิ่ง 4 วันติด! ร่วง 537.36 จุด “กลุ่มขนส่ง” กดดัชนี หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี EU

หุ้นสหรัฐร่วงแรง! ดาวโจนส์ดิ่ง 537.36 จุด ขณะที่ S&P 500 เข้าสู่ภาวะปรับฐาน นักลงทุนหวั่นสงครามการค้าปะทุ หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีไวน์ EU สูงถึง 200%


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.68) โดยดัชนี S&P 500 (^GSPC) เข้าสู่ภาวะ “ปรับฐาน” (Correction) อย่างเป็นทางการ หลังจากลดลงมากกว่า 10% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ซึ่งเข้าสู่ภาวะปรับฐานไปก่อนหน้านี้แล้ว ลดลงเกือบ 2% ส่วนดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลงเป็นวันที่ 4

  • ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ปิดที่ 40,813.57 จุด ลดลง 537.36 จุด หรือ 1.30%
  • ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,521.52 จุด ลดลง 77.78 จุด หรือ 1.39%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (IXIC) ปิดที่ 17,01 จุด ลดลง 345.44 จุด หรือ 1.96%

S&P 500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ดิ่งลง 2.67% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 2.58% ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ดีดตัวขึ้น 0.27%

หุ้นกลุ่มขนส่งในดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 18.9% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยหากลดลงถึง 20% จะยืนยันภาวะ “ตลาดหมี” ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มขาลงและอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนจากข่าวสารรายวัน ขณะที่ท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ในสงครามการค้าและความไม่แน่นอนด้านภาษียังคงกดดันวอลล์สตรีทในสัปดาห์นี้

ทรัมป์ย้ำจุดยืนแข็งกร้าว ไม่ยอมอ่อนข้อในศึกการค้า ล่าสุดประกาศตอบโต้สหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ด้วยการขู่ขึ้นภาษีไวน์และสุราสูงถึง 200%

หลังจากที่สหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ตอบโต้ทันที โดยเตรียมเรียกเก็บภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 26,000 ล้านยูโร (ราว 947,618 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานรัฐ (Government Shutdown) ที่อาจเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ โดยพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา มีแผนที่จะคว่ำร่างงบประมาณของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจนำไปสู่ภาวะชะงักงันทางการคลัง

รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index – PPI) ที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% อย่างไรก็ตาม ในระดับปีต่อปี PPI เพิ่มขึ้น 3.2% ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3%

ส่วนตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 226,000 ราย

นักลงทุนยังจับตาดูว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีท่าทีอย่างไรต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความผันผวนในตลาด เนื่องจากความเสี่ยงเหล่านี้อาจยังไม่จบลงในเร็วๆ นี้

Back to top button