หุ้นยุโรปพุ่งแรง! รับ “เยอรมนี” ผ่อนปรนมาตรการจำกัดหนี้ จับตาเจรจาทรัมป์-ปูติน

ตลาดหุ้นยุโรปบวกแรง หลังรัฐสภาเยอรมนีไฟเขียวแผนใช้จ่ายครั้งใหญ่ หนุนดัชนี DAX พุ่ง 226.13 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองโลก และเปิดทางสู่ข้อตกลงสันติภาพในยูเครน


ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันอังคาร (18 มี.ค. 68) หลังรัฐสภาเยอรมนีอนุมัติแผนการใช้จ่ายครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจกับการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งอาจส่งผลต่อความพยายามในการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในยูเครน

โดยดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.30 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ 0.61%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,114.57 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด หรือ 0.50%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,380.70 จุด เพิ่มขึ้น 226.13 จุด หรือ 0.98% และดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,705.23 จุด เพิ่มขึ้น 24.94 จุด หรือ 0.29%

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปิดบวก นำโดย หุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้น 2.5% โดยดัชนีกลุ่มธนาคารแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2554 ท่ามกลางแนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีหุ้นกลุ่มอวกาศและกลาโหมปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 1.4%

สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนี (Bundestag) อนุมัติการปฏิรูปที่รวมถึงการผ่อนปรนมาตรการจำกัดหนี้ (debt brake) เพื่อเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม และการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 5 แสนล้านยูโร หรือ 5.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยแผนดังกล่าวจะถูกเสนอให้วุฒิสภาพิจารณา ในวันศุกร์นี้ (21 มี.ค.68)

ความคาดหวังต่อการปฏิรูปดังกล่าวทำให้หุ้นกลุ่มกลาโหม ค่าเงินยูโร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนพุ่งขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าหลังจากการลงมติแล้ว ราคาทรัพย์สินเหล่านี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นซีเมนส์ (Siemens) ขยับขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ประกาศแผนปลดพนักงาน 5,600 ตำแหน่งในธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล

ผลสำรวจจาก แบงก์ออฟอเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช (BofA Global Research) ระบุว่า มีการโยกเงินออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดหุ้นยุโรปมากที่สุด นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 พร้อมกับการกลับมาสนใจหุ้นขนาดเล็กของยุโรปอีกครั้ง

Back to top button