
หุ้นที่ต้องมี!
สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนต้องจั่วหัวแบบนี้ เพราะต้องการสื่อให้นักลงทุนรู้ว่า ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายจนถึงขีดสุดแล้วแน่ ๆ
สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนต้องจั่วหัวแบบนี้ เพราะต้องการสื่อให้นักลงทุนรู้ว่า ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายจนถึงขีดสุดแล้วแน่ ๆ ดัชนีจึงยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,150 จุดอย่างเหนียวแน่น ก่อนระเบิดฟอร์มใหญ่ด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,189.66 จุด บวกไป 13.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.27 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมโต้กลับเร็วที่นักเล่นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นะจะบอกให้
เหมือนกับที่อีฉันเม้าท์ให้ฟังตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และต่อเนื่องถึงสัปดาห์นี้ว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่วงรอบขาขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะเมื่อดูจากค่า PE บวกกับ PBV และสมทบด้วย Dividend Yield มันกลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกตัวแรงแซงทางโค้งว่า วันนี้แฟนคลับต้องมีหุ้นพื้นฐานดีเก็บไว้ในพอร์ตอย่างน้อย 40% เพราะเมื่อนั่งบวกลบคูณหารแบบละเอียด..มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีกนะคะ
งานนี้หากไม่เชื่ออีฉัน ก็ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น แต่อยากให้แฟนคลับไปศึกษาคำพูดของคุณปู่ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ที่เคยพูดไว้ว่า “หากนักลงทุนไม่สามารถซื้อหุ้นเพื่อลงทุนเป็นเวลา 10 ปีได้ ก็ไม่ควรจะซื้อในอีก 10 นาทีต่อจากนี้” ซึ่งเป็นประเด็นที่กระตุกต่อมความคิดได้เป็นอย่างดี เพราะของมันเคยพิสูจน์กันมาแล้วว่า ธุรกิจไหนที่สามารถอยู่เกินทศวรรษได้ ย่อมเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งพะย่ะค่ะ
โดยเฉพาะดาวเด่นอย่าง SCB ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่อีฉันชอบเม้าท์ถึงบ่อยในช่วงที่ผ่านมา ผนวกกับช่วงนี้นักวิเคราะห์แนะนำให้ทยอยซื้อกันเป็นแถว “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 125 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 741 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่า ยังมีแก๊ปให้หุ้นไปต่ออย่างไม่ต้องสงสัย งานนี้เลยขึ้นอยู่กับนักเล่นมองเห็นโอกาสตรงนี้กันไหมเอ่ย?
เช่นเดียวกับในรายของ MTC ก็อยู่ในประเภทหุ้นที่น่าซื้อเข้าพอร์ต เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ 43 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 523 ล้านบาท มันเป็นการเด้งกลับตรงแนวรับก่อนหน้านี้พอดี และอาจตีความได้ว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณแนวต้าน 50 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยมองว่า นี่เป็นจังหวะเล่นตามน้ำสำหรับคนที่ “คิดเร็ว ทำเร็ว” นะจะบอกให้
ส่วนรายที่ตั้งทรงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นทางเลือกให้กับพวกขาลุย เดี๊ยนขอแนะนำให้มองไปที่หุ้น PTTGC เป็นรายถัดมา ผนวกกับราคาหุ้นพยายามยกฐานขึ้นอย่างช้า ๆ เดี๊ยนเลยมองการยืนปิดที่ระดับ 18.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท เป็นโอกาสของการเล่นตามน้ำอย่างแน่นอน ผนวกกับปีนี้มีสตอรี่เกี่ยวกับเทิร์นอะราวด์เป็นแบ็กอัพ อีฉันเลยสนใจมากเป็นพิเศษก็เท่านั้นเอง
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น PCE ขึ้นมาทันที เพราะเขาคือเจ้าพ่อน้ำมันปาล์มครบวงจร และปีนี้ ก็ยังเป็นปีทองของธุรกิจปาล์ม อีฉันจึงอยากให้แฟนคลับลองเปิดใจให้กับหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง เนื่องการจากยืนปิดที่ระดับ 3.02 บาท เป็นการเทรดบน PE 13 เท่า และยังให้ผลตอบแทนในรูปปันผลที่ระดับ 5% แบบนี้..อีฉันมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็คุ้มค่าสำหรับการลงทุนนะตัวเอง
คล้ายกับสถานการณ์ของ FM ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจในแง่ของกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น จึงเป็นหุ้นที่ควรค่าแก่การลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 3.70 บาท ท่ามกลาง PE 5 เท่า พร้อมกับมีคำแนะนำว่า ตั้งแต่ปี 67-69 กำไรของบริษัทจะโต 46% และให้ราคาเป้าหมายที่บริเวณ 8.90 บาทแบบนี้..มันเป็นจังหวะของการซื้อลงทุนอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
โมนิก้า: และทีมงาน