หุ้นไทยฟื้น?

หลายครั้งที่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ “โมนิก้า” มักเห็นกองทุนเป็นเจ้าภาพหลักในการดันหุ้นเป็นประจำ


หลายครั้งที่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ “โมนิก้า” มักเห็นกองทุนเป็นเจ้าภาพหลักในการดันหุ้นเป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องที่อีฉันพยายามชี้ให้แฟนคลับได้เห็นว่า ถ้าตลาดหุ้นไทยต้องการไปต่อยาว กองทุนต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ดัชนีขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,200 จุดอย่างแข็งแกร่ง และคาดหวังที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,250 จุดได้อีกด้วยนะนายจ๋า!

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้อีฉันมองการอ่อนตัวของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,181.71 จุด ลบไป 7.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.46 หมื่นล้านบาท คือเรื่องปกติของตลาดหุ้นไทย (วันก่อนขึ้นแรง วันนี้เลยถูกขายทำกำไร) ผนวกกับดัชนีมีการยกฐานสูงขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ จึงเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ตลาดหุ้นไทยพร้อมสำหรับการทดสอบรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้แล้วนะจ๊ะ

สถานการณ์ที่น่าจะดีขึ้นเป็นลำดับดังกล่าว ทำให้หุ้นบลูชิพเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และหนึ่งในตัวทีเด็ดที่ “โมนิก้า” ชอบชำเลืองดูทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยดีขึ้นก็คือ PTT เพราะเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ที่นักลงทุนสถาบันมักเข้าซื้อเป็นประจำ อีฉันเลยไม่แปลกใจที่ตลอดทั้งสัปดาห์หุ้นขึ้นต่อเนื่อง จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 30.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 พันล้านบาท เพราะของมันต้องมีเจ้าค่ะ

เหมือนกับรายของ TTB ก็อยู่ในลิสต์ของกองทุนต้องมีเช่นกัน “โมนิก้า” เลยเชื่อมาโดยตลอดว่า อย่างน้อย ๆ หุ้นควรขึ้นไปยืนเหนือ 2 บาท (บุ๊กแวลูอยู่ที่ 2.45 บาท) แต่ในความเป็นจริงดันกลายเป็นว่า หุ้นแกว่งตัวไปมาที่ 1.90-2.00 บาทเป็นเวลาเดือนครึ่ง อีฉันจึงมั่นใจว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 1.92 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 261 ล้านบาท คือระดับที่ลงทุนสบาย ๆ นะตัวเอง

เช่นเดียวกับในรายของ IVL ก็มีมุมที่น่าสนใจในแง่ของการเทิร์นอะราวด์ ผสานกับราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ในระดับ 26 บาท ก็เป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ “โมนิก้า” ชอบหันมามองหุ้นตัวนี้เป็นระยะ พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า เมื่อไหร่กองทุนจะใส่แบบสุดซอย? หลังหุ้นย่ำฐานอยู่ที่บริเวณ 21 บาทสองสัปดาห์แล้ว หรือหุ้นตัวนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบเหมือนในอดีตแล้ว..ใครพอมีความรู้ช่วยคอมเมนต์หน่อยจ้า!

ส่วนเรื่องที่พอคอมเมนต์ได้ “โมนิก้า” คงมองไปที่ MEGA ซึ่งเป็นหุ้นตัวท็อปของวงการวิตามิน และประเด็นที่อยากเม้าท์มากสุดคือ หุ้นตัวนี้มีแข็งแกร่งทุกด้าน แต่ปัญหาที่เจอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคือ ROE ลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนกำลังมีปัญหา และทำให้นักเก็งกำไรชิ่งหนีกันเป็นแถว (ตั้งแต่หมดโควิด ก็หงอยมาตลอด) โดยตอนนี้ได้กลายสภาพจาก “หุ้นเติบโต” เป็น “หุ้นปันผล” ไปแล้วนะออเจ้า

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น TIDLOR ขึ้นมาในทันที เพราะรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นักลงทุนกลับไม่นิยมเล่นเหมือนกับหุ้นลีสซิ่งตัวอื่น ๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นทำได้แค่แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบ 14-19 บาทเป็นเวลา 7 เดือน เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 15.50 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 185 ล้านบาท น่าสนใจในแง่หุ้นเพิ่งเด้งขึ้นจากฐานล่างเจ้าค่ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นปลากระป๋อง TU ก็เป็นหุ้นที่เดี๊ยนชื่นชอบลำดับต้น ๆ ในเวลานี้ เพราะเมื่อดูจากการเทรดของหุ้นไม่เกิน PE 10 เท่า และยังมีเรื่องของปันผลที่อยู่ในระดับ 5% เป็นของแถมติดปลายนวม “โมนิก้า” ย่อมมองการยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 11.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 119 ล้านบาท เหมาะต่อการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ต เพราะเชื่อว่า ราคาหุ้นคงไม่ต่ำกว่านี้อีกแล้วน่ะซี

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button