
“คุณหญิงปัทมา” ถอนตัวสมัคร “ประธานโอลิมปิคไทย” เปิดทาง “สุชัย-พิมล” ชิงดำ
"คุณหญิงปัทมา" ประกาศถอนตัวศึกชิงตำแหน่งประธานโอลิมปิคไทย แม้มีเสียงสนับสนุนท่วมท้น เพื่อการเลือกตั้งโปร่งใส-สร้างความสามัคคีในวงการกีฬา พร้อมเปิดทางให้ "สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม-"พิมล ศรีวิกรม์" ชิงเก้าอี้ 25 มี.ค.นี้ ไอโอซีจับตาเข้ม เตรียมส่งทีมสังเกตการณ์ 25 มีนาคมนี้!
วันนี้(21 มี.ค.2568) คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยระหว่างเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 144 ที่ประเทศกรีซ ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ เคิร์สตี้ โคเวนทรี อดีตนักว่ายน้ำหญิงซิมบับเว ที่เคยแข่งขันโอลิมปิกมา 5 สมัย ในวัย 42 ปี เพื่อนสนิทไอโอซีเมมเบอร์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจ ถูกเลือกให้เป็นประธานไอโอซีคนใหม่ ในการประชุมครั้งนี้ โดย โคเวนทรี ผู้บริหารรุ่นใหม่ นับเป็นประธานไอโอซีคนที่ 10 และเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ทำหน้าที่นี้
ขณะเดียวกัน ไอโอซีเมมเบอร์หลายท่านที่มาร่วมประชุม ยังได้ให้ความสนใจ การเลือกตั้งของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯอีกด้วย เพราะในช่วงนี้ชาติสมาชิกไอโอซี ทั้ง 206 ประเทศทั่วโลก จะทยอยจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ หลังจบโอลิมปิก ภายในเวลา 1 ปี
โดยไอโอซีเมมเบอร์หลายท่าน มีข้อเสนอที่น่าสนใจว่า จริง ๆ แล้ว การเลือกตั้งโอลิมปิคไทย ควรมีขั้นตอนและวิธีการเหมือนกับการเลือกตั้งประธานไอโอซี ที่กำหนดให้ผู้สมัคร มีการยื่นใบสมัครเข้ามาอย่างเป็นทางการก่อน และกำหนดวันในการแสดงวิสัยทัศน์อย่างชัดเจน เพื่อให้สมาชิกได้รับฟังแนวทางการทำงาน ก่อนการตัดสินใจเลือก ซึ่งตรงนี้ก็ได้น้อมรับไว้ และจะนำไปหารือกับคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคไทยชุดใหม่ต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ “คุณหญิงปัทมา”กล่าวว่า พร้อมที่จะรับตำแหน่งประธานโอลิมปิคไทย หากมีผู้เสนอชื่อในวันเลือกตั้ง วันที่ 25 มีนาคม 2568 และไอโอซี ก็พร้อมที่จะส่งทีมงานมาสังเกตการณ์ เพื่อให้การเลือกตั้ง เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมเหมือนปี 2544 ที่มีผู้แข่งขัน 2 ท่าน “ไอโอซี” ก็มีส่งผู้แทนมานั่งสังเกตุการณ์ พร้อมกันนี้ ยังมีการสอบถามมาด้วยว่า การเลือกตั้งของไทยครั้งนี้ มีเรื่องของการเมืองหรือรัฐบาลเข้ามาชี้นำ หรือแทรกแซง หรือไม่ เรื่องนี้ปัทมา ได้ตอบปฎิเสธไปในทันทีว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะมีหลายประเทศหลังเลือกตั้งที่ “ไอโอซี” ไม่รับรอง การเลือกตั้งทำให้เสียเวลามาก และเรื่องนี้ “ปัทมา” บอกประเทศไทย มีแต่เรื่องของกีฬาเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ประเทศไทย กำลังมุ่งมั่นประสานความร่วมมือกันในหลาย ๆ ฝ่าย ในการเสนอตัว เพื่อจัดกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ในปี 2030 ให้ได้ โดยใช้ทุนน้อยมาก เมื่อเทียบกับโอลิมปิกใหญ่ และตอนนี้มีประเทศแถบเอเซียหลายประเทศจะเสนอแข่งด้วย ที่สำคัญประเทศไทยยังต้องมีรายการแข่งขันกีฬาระดับโลกอีกหลายประเภท
คุณหญิงปัทมา กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะมีการแข่งขันกันสูง และต่างก็มีทีมงานเป็นของตนเอง ในฐานะที่ “ปัทมา” ทำหน้าที่เป็นไอโอซีเมมเบอร์อยู่ด้วย เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้านแล้วจึงตัดสินใจที่จะเสียสละไม่ขอรับตำแหน่งประธานโอลิมปิคไทย แม้จะมีผู้เสนอชื่อในวันเลือกตั้งก็ตาม
อีกทั้งแม้ “ปัทมา” จะมีเสียงสนับสนุน และทีมงานพร้อมอยู่แล้ว แต่ที่ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะต้องการให้ทาง “ไอโอซี” คลายกังวลว่ามีคนของไอโอซีร่วมเป็นแคนดิเดต และก็มีหลายประเทศที่ ไอโอซี และ เอ็นโอซี เป็นคนเดียวกันเพื่อนทำงานได้คล่องตัวขึ้น และต้องการรักษาบรรยากาศที่ดี สร้างความสามัคคีในวงการกีฬาเอาไว้ให้เหมือนเดิม ทั้งก่อนแข่งและหลังแข่ง เพราะทุกคนก็ต่างเป็นเพื่อนพี่น้องกันหมด เคยทำงานร่วมกันมา และต้องทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต ซึ่งต้องขอโทษผู้ที่สนับสนุน “ปัทมา” ไว้ในโอกาสนี้ด้วยและคิดว่าการแข่งขัน 2 ทีม ก็มากพอแล้ว
“สำหรับผู้เสนอตัวทั้ง 2 ท่าน คุณสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ และ คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ถือว่าต่างก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ที่จะเข้ามาช่วยกันพัฒนากีฬาของประเทศ ส่วน “ปัทมา” แม้จะไม่ขอรับตำแหน่งประธาน แต่เมื่อเสร็จสื้นกระบวนการเลือกตั้งในฐานะไอโอซี มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยประสานงานด้านกีฬาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของกีฬาไทย อย่างต่อเนื่องต่อไป” คุณหญิงปัทมา กล่าวเพิ่มเติม