KTC กำไรทุบสถิติ

–คุณค่าบริษัท–

 

แม้ว่าในปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจในประเทศไทยและระดับเอซียจะมีการชะลอตัวก็ตาม แต่ภาพรวมของอุตสหากรรมทางด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคยังคงเติบโตได้ดีพอสาควร โดยเฉพาะในส่วนของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้และรักษาฐานการทำกำไรจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่มีอัตราเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม

อีกทั้งการขยายตัวในยอดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ภายใต้มาตรฐานการอนุมัติบัตรที่เข้มงวด แนวทางการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารความเสี่ยงที่ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับเหมาะสม อีกหนึ่งปีสำคัญของบริษัทที่สามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างสถิติใหม่อีกด้วย

โดยข้อมูลสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 15,558.96 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,336.63 ล้านบาท เป็นผลมาจากดอกเบี้ยรับและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,072.61 ล้านบาท หรือ 8.04 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,754.98 ล้านบาท หรือ 6.81 บาทต่อหุ้น

นับเป็นการทำกำไรสุทธิที่ทุบสถิติใหม่ได้อย่างมหัศจรรย์ จากปีก่อนหน้าที่ทำกำไรมาโดยตลอด!!

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้ ผู้บริหารมองว่ายังคงเข้มแข็งสานต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายจะรักษามูลค่ากำไรให้อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรให้เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจะขยายฐานการรับสมัครสมาชิกใหม่เพิ่มเติมและขยายสมาชิกในต่างจังหวัด หัวเมืองใหญ่ๆ ผ่านช่องทางการจัดหาสมาชิกที่หลากหลาย และกลไกการบริหารความสัมพันธ์กับผู้แทนขายแบบยั่งยืน

ทั้งนี้มีแนวทางการทำธุรกิจในแต่ละด้านดังนี้ ธุรกิจบัตรเครดิต 1. พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ บริการที่หลากหลาย โดยโฟกัสกลุ่มสมาชิกระดับบนที่มีศักยภาพด้านการใช้จ่าย และเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยใช้กลยุทธ์ POME (Point of Market Entry) หรือทำให้เกิดความชื่นชอบ ตัดสินใจสมัครเป็นบัตรใบแรก และคงอยู่กับเคทีซีในระยะยาว

2. คงแนวคิดสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตให้มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกหมวดร้านค้าที่เป็นการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (Everyday Usage) ธุรกิจสินเชื่อบุคคล พัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์สินเชื่อพร้อมใช้ “KTC PROUD” โดยมุ่งขยายฐานสมาชิกใหม่และทำตลาดเฉพาะเจาะจง เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการสมัคร และมุ่งเน้นช่องทางสมัครใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในช่องทางออนไลน์

ประกอบกับมีกิจกรรมการตลาดแบบเปิดกว้างที่มุ่งช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิก ธุรกิจร้านค้ารับบัตร เน้นรุกเข้าธุรกิจประเภทใหม่ ขยายสู่ตลาดต่างจังหวัดและร่วมมือใกล้ชิดกับธนาคารกรุงไทย ช่องทางดิจิตัล รุกและขยายบริการในธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เสนอบริการ KTC Payment Solutions ที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ ร่วมวางแผนและหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกัน คะแนนสะสม KTC Forever Rewards เพิ่มความคุ้มค่าในการใช้คะแนนสะสมทุกหมวดที่เชื่อมโยง

และต่อยอดจากระบบใหม่ RewardzNow ที่พัฒนาเพื่อรองรับโปรแกรมการตลาดที่แปลกใหม่และเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีและบัตรสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว” โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ศึกษากลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตตามกระแสหรือมีศักยภาพ หรือเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของสมาชิก และการสร้างกิจกรรมการตลาดที่ส่งเสริมให้สมาชิกพึงพอใจ และสร้างพฤติกรรมการใช้บัตรที่เพิ่มความหลากหลายขึ้น

ด้วยประสิทธิภาพในการปล่อยสินเชื่อของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะบัตรสินเชื่อ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการทำกำไรต่อเนื่อง

KTC คงยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนอยู่!!

…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 127,500,000 หุ้น 49.45%

2.นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา 21,970,000 หุ้น 8.52%

3.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 20,890,750 หุ้น 8.10%

4.นายสถาพร งามเรืองพงศ์ 6,774,500 หุ้น 2.63%

5.น.ส.ฉันทนา จิรัฐิติภัทร์ 3,682,500 หุ้น 1.43%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาง กิตติยา โตธนะเกษม ประธานกรรมการบริษัท

2.นาย ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3.นาย ระเฑียร ศรีมงคล กรรมการ

4.นาง ศรีประภา พริ้งพงษ์ กรรมการ

5.นาง อรุณภรณ์ ลิ่มสกุล กรรมการ