กระทิงอ่อนหัดพลวัต 2016

วันหยุดมาฆบูชาของตลาดหุ้นไทย เป็นการเสียโอกาสครั้งสำคัญ เพราะตลาดหุ้นเขียวเกือบทั่วเอเชียและทั่วโลก จากการที่ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนส่งจากอีรักประกาศจะร่วมมือตรึงการผลิตน้ำมัน และข่าวดีจากตลาดหุ้นจีน กับผลจากยอดขายค้าปลีกในญี่ปุ่น ทำให้แรงคลายกังวลเรื่องภาวะหมีชะลอตัวลงไป


วันหยุดมาฆบูชาของตลาดหุ้นไทย เป็นการเสียโอกาสครั้งสำคัญ เพราะตลาดหุ้นเขียวเกือบทั่วเอเชียและทั่วโลก จากการที่ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนส่งจากอีรักประกาศจะร่วมมือตรึงการผลิตน้ำมัน และข่าวดีจากตลาดหุ้นจีน กับผลจากยอดขายค้าปลีกในญี่ปุ่น ทำให้แรงคลายกังวลเรื่องภาวะหมีชะลอตัวลงไป

นักลงทุนจำนวนไม่น้อยได้เริงร่ากับราคาหุ้นที่ทำท่าจะเป็นขาขึ้น และหลงผิดไปจากข้อเขียนของผู้ขเขียนเองเมื่อวันศุกร์ที่ว่า ภาวะหมีกำลังจะมาถึงจุดจบ

ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยคือ รอยต่อระหว่างจุดจบของภาวะหมี และการเริ่มใหม่ของภาวะกระทิงนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีจังหวะทิ้งหุ้นให้ร่วงอีกต่อไป เพราะว่า โอกาสที่นักลงทุนจะเริ่มกลับมาสู่ตลาดในภาวะกระทิงเริ่มแรกนั้น ไม่ได้มีมากมาย จึงเปิดทางให้กับการขายทำกำไรได้ง่ายพอสมควร โดยเฉพาะหากว่าสัญญาณทางเทคนิคพลิกกลับเร็วจากขายมากเกินเป็นซื้อมากเกินเร็วเกินกว่าปกติ จะทำให้ความผันผวนของตลาดเกิดขึ้นแรงได้เสมอ

ข้อเท็จจริงที่หลายคนไม่อาจปฏิเสธได้คือ เงื่อนไขข้อตกลงของ 4 ประเทศประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย, กาตาร์ และเวเนซุเอลา ในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดือนมกราคม เป็นโจทย์ที่มองต่างมุมกันและซ่อนความหมาย เพราะเป็นการตรึงผลผลิตไว้ในปริมาณสูงสด ซึ่งหมายความว่า ปริมาณน้ำมันล้นตลาดจะยังคงดำเนินต่อไปอีกนานหลายเดือน และระหว่างที่อุปทานกับอุปสงค์ยังไม่ได้สมดุลกัน ราคาน้ำมันจะกลายเป็นขาขึ้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

เช่นกัน ข่าวดีจากญี่ปุ่นและจีน ก็ยังเป็นข่าวดีที่เกิดขึ้นชั่วคราว ไม่ได้มีนัยสำคัญว่าจะทำให้ตลาดเป็นขาขึ้นจริงจัง โดยเฉพาะในยามที่ค่าพี/อีของตลาดทั่วโลก ยังคงมีอยู่ในระดับสูง ยกเว้นฮ่องกงที่ต่ำกว่าปกติจากเหตุผลอื่นๆ และเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องกับจีนเท่านั้นเอง

แรงซื้อกลับเข้ามาดันราคาน้ำมันใน 2 วันทำการต่อเนื่อง ถือว่ามีส่วนทำให้ตลาดหุ้นบวกแรงอีกครั้งมาสู่ระดับที่พ้นจากจุดต่ำสุดอย่างปลอดภัย แม้ไม่อาจจะปฏิเสธข้อเท็จจริงของการที่ราคาน้ำมันเป็นขาลงมานานประมาณ 1 ปีครึ่ง อยู่ที่ว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงเร็วมาก ทำให้เศรษฐกิจชาติสำคัญของโลกตกอยู่ในสภาพเข้าใกล้ภาวะเงินฝืดรุนแรง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะพังทลาย เพราะไม่เคยมีสถิติใดที่ระบุว่า ราคาพลังงานที่ตกต่ำ จะทำให้ชาติที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันเกิดการพังทลายทางเศรษฐกิจ

การที่ชาติส่งออกน้ำมันที่เศรษฐกิจจะพังทลาย  ใช้เงื่อนไขตรึงผลผลิตน้ำมัน แต่ไม่ตรึงราคาน้ำมัน อาจจะสร้างข่าวดีชั่วขณะได้ แต่ไม่ได้หมายความจะตรึงราคาน้ำมันที่ล้นตลาดได้ยั่งยืน ข้อเท็จจริงนี้ อาจจะทำให้ตลาดหุ้นดูดีขึ้น แต่ก็ยังคงจะรอฟังว่าหากวันใดขาดข่าวดีหนุนส่ง โลกจะกลับสู่ความเป็นจริงที่มีแรงเทขายออกมาเพราะราคาหุ้นและดัชนีตลาดมีค่าสูงเกินจริงมากเกินสมควรได้ไม่ยาก

ข่าวดีของตลาดหุ้น สามารถเป็นข่าวร้ายได้เสมอ ในยามที่แม้จะพ้นภาวะหมีกลับไปแล้ว แต่ภาวะเริ่มต้นของกระทิงที่อ่อนหัดนั้น ยังคงมีความสุ่มเสี่ยงอยู่ต่อไป

หากมองจากมุมของทฤษฎีเกม ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตของ 4 ชาติ เป็นได้ทั้งการโยนก้อนหินถามทางตามปกติ และการส่งสัญญาณให้ชาติส่งออกน้ำมันได้ตั้งสติล่วงหน้าเพื่อประเมินความได้ เสียของมาตรการตามข้อตกลงดังกล่าว ที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้กระบวนการและกลไกการทำงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ได้มีเวลาปรับตัวเพื่อให้เข้าบรรยากาศใหม่ ให้หลุดพ้นจากปัญหาทางสามแพร่งของธุรกิจที่เผชิญอยู่

คำเตือนสติของนางคริสติน ลาการ์ด แห่ง IMF ที่ระบุว่าตราบใดที่ปริมาณน้ำมันส่วนเกินยังคงไม่สามารถลดลงไปได้ ความหวังจะให้ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นเป็นไปแทบไม่ได้เลย น่าจะเตือนสติตลาดได้ดีพอสมควรเพื่อเรียกความสมเหตุสมผลกลับคืน

หากคำเตือนสติดังกล่าวไม่มีคนเชื่อฟังก็คงช่วยไม่ได้ ที่เราอาจจะได้เห็นภาวะตลาดร่วงแรงในระยะสั้นหากเกิดสัญญาณซื้อมาเกินไปปรากฏขึ้นมาชัดเจน เพราะคงจะเป็นไปไม่ได้ที่ตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นโดยปราศจากรากฐานข้อเท็จจริงรองรับ

ความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบของโลกในครึ่งแรกของปีนี้จะเริ่มมีสถียรภาพในระดับต่ำประมาณ 32-35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกนานหลายเดือน อาจช่วยทำให้หายใจโล่งอกได้ แต่ตราบใดที่ราคาน้ำมันยังล้นตลาด โอกาสที่จะเห็นราคาหุ้นพลังงานวิ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นพลังขับเคลื่อนตลาดย่อมเป็นไปไม่ได้

หากว่าเศรษฐกิจของชาติต่างๆ จะเริ่มกระเตื้องขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ การผลิตสินค้าแบบขยายวงเกิดขึ้นพร้อมกัน  จากการที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ก็อาจจะถือเป็นคุณูปการของตลาดโดยทางอ้อมได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ราคาน้ำมันจะเป็นตัวขับเคลื่อนโดยตรงของตลาดอีกต่อไป

นักลงทุนที่มองเห็นปรากฏการณ์ตลาดหุ้นขาขึ้นต่อเนื่องที่อาจจะลามมาถึงสัปดาห์นี้ คงต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การหลงระเริงว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องรุนแรงนั้น เป็นอันตรายได้พอๆ กับคนที่หลงเชื่อว่าตลาดจะเป็นขาลงยาวนานเช่นกัน

Back to top button