
PRINC เปิดเกมรุกซื้อกิจการ “รพ.ธนกาญจน์” มูลค่า 577 ล้าน ขยายพอร์ตสุขภาพ
PRINC ลุยตั้ง “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ – กาญจนบุรี” บริษัทย่อยแห่งใหม่ เพื่อเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลธนกาญจน์ มูลค่ารวม 577 ล้านบาท ขยายพอร์ตสุขภาพ
นางสาวอติยา อาวัชนาการ เลขานุการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 มีมติอนุมัติที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทย่อย และการรับโอนกิจการสถานพยาบาลทั้งหมด ของ บริษัท โรงพยาบาลธนกาญจน์ จํากัด ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใน จังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อมีความแน่นอนในการเข้าทำธุรกรรม ดังกล่าว บริษัทฯ จึงขอแจ้งรายละเอียดให้ทราบ คือ
บริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PRINC จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ จำนวน 1 บริษัท ภายใต้ชื่อ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ – กาญจนบุรี จํากัด (PKRI) ประเภทธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 300,000,000 บาท แบ่งเป็นไม่เกินจำนวนหุ้น 3,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
ส่วน โครงสร้างการถือหุ้น บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PRINC ถือหุ้นร้อยละ 100 ทั้งนี้ แหล่งที่มาของเงินทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ PRINC มีมติอนุมัติให้ PKRI เข้าซื้อและรับโอนกิจการสถานพยาบาลทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของ บริษัท โรงพยาบาล ธนกาญจน์ จํากัด (“ธนกาญจน์”) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลธนกาญจน์”
โดยเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 74 เตียง ตั้งอยู่ที่เลขที่ 20/20 ถนนแสงชูโต ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่ง PKRI จะรับโอนมาซึ่งกิจการสถานพยาบาลทั้งหมดของธนกาญจน์ การเข้ารับโอนกิจการโรงพยาบาลธนกาญจน์นี้ เป็นไปเพื่อการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมและเติบโตมากขึ้น
ขณะที่ PKRI ได้เข้าทำสัญญาโอนกิจการทั้งหมดกับธนกาญจน์ (สัญญาโอนกิจการทั้งหมด) เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 และ ภายใต้ข้อกําหนดและเงื่อนไขของสัญญาโอนกิจการทั้งหมด PKRI จะเข้ารับโอนกิจการทั้งหมดของธนกาญจน์และชําระ ค่าตอบแทนการโอนกิจการข้างต้นให้แก่ธนกาญจน์ เป็นจำนวนรวมไม่เกิน 577,500,000 บาท โดยมีแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัทฯ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ การทำธุรกรรมนี้จะเสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายดำเนินการปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อน และเงื่อนไข ต่างๆ ซึ่งระบุในสัญญาโอนกิจการทั้งหมดโดยครบถ้วน หรือได้รับการผ่อนผันจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 โดยบริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าให้กับผู้ถือหุ้นทราบ ต่อไปเมื่อการเข้าทำรายการข้างต้นเสร็จสมบูรณ์