
ซื้อหลังคลายกังวล?
ในเมื่อทั่วโลกยอมให้คนบ้าอำนาจอย่างตาแก่ขี้วีน “ทรัมป์” ขึ้นเป็นผู้ชี้ชะตาเศรษฐกิจโลก ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ทั่วโลกจะปั่นป่วนไปตามกัน
ในเมื่อทั่วโลกยอมให้คนบ้าอำนาจอย่างตาแก่ขี้วีน “ทรัมป์” ขึ้นเป็นผู้ชี้ชะตาเศรษฐกิจโลก ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ทั่วโลกจะปั่นป่วนไปตามกัน เพราะวันนี้อยากสั่งเชือดก็ทำทันที พอวันถัดมาก็กลับลำหน้าตาเฉย ส่งผลให้สภาพของตลาดหุ้นปั่นป่วนไปทุกหย่อมหญ้าแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของเกมการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อทำให้ประเทศมหาอำนาจที่เป็นคู่แข่งกับอเมริกายอมสยบแทบเท้ามากกว่าเจ้าค่ะ
ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองท่าทีการเลื่อนเก็บภาษีของอเมริกาออกไป 90 วัน น่าจะเป็นเพียงการต่อรองกับประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เข้ามาเป็นพวกของตัวเอง ซึ่งมีแนวโน้มที่ประเทศต่าง ๆ ต้องยอมอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเรื่องนี้ก็เห็นได้จากเพื่อนของเราอย่างเวียดนามที่ยอมดั๊มภาษีนำเข้าให้อเมริกาเหลือ 0% ในขณะเดียวกันจะเห็นว่าพี่ใหญ่อย่างจีนสู้กลับด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากอเมริกาเป็น 84% แต่อเมริกาซัดอีกดอกด้วยการขึ้นมาภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 125% พะย่ะค่ะ
สถานการณ์ตรงนี้เป็นเกมที่ยืดเยื้อแน่นอน เพราะประเทศมหาอำนาจไม่ยอมให้ข่มกันง่าย ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการดีดตัวของดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,133.95 จุด บวกไป 45.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.22 หมื่นล้านบาท เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนยังพร้อมลงทุนในตลาดหุ้น แต่ขอแค่ความชัดเจนในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสักนิดหนึ่ง ต่อจากนั้นจะได้ลงทุนอย่างสบายใจนะจะบอกให้
เหมือนกับการเด้งขึ้นของหุ้นลูกอ๊อด AOT พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 38.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.11 พันล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักการ โดยเฉพาะเมื่อมองจากค่า PE 25 เท่า ซึ่งเป็นระดับการเทรดที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี แถมราคาหุ้นก็ต่ำกว่าในช่วงโควิดระบาดแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ราคาที่เห็นวานนี้ยังลงทุนได้ตามตำราที่เล่าเรียนมาค่ะ
หุ้นอีกรายที่อีฉันมีความสนใจเป็นประจำก็คือ KTB เพราะเป็นหุ้นเสือนอนกินเบอร์ต้น ๆ ของตลาดหุ้นไทย และอย่างที่ทราบกันดีก็คือ สินเชื่อที่เกี่ยวกับภาครัฐก็เป็นของแบงก์นี้ ส่วนสินเชื่อภาคเอกชนก็มาเรื่อย ๆ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกที่หุ้นตัวนี้เด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 22.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.27 พันล้านบาท เพราะทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้น มักเห็นหุ้นตัวนี้ติด TOP10 เป็นประจำน่ะซี
ประเด็นดังกล่าวทำให้อีฉันอยากเอ่ยถึงหุ้น PTT เพื่อชี้ให้เห็นความแข็งแกร่งของหุ้นมาจากการซื้อหุ้นคืน ซึ่งเห็นได้จากในช่วงที่ตลาดหุ้นลงแรง หุ้นตัวนี้ไม่ได้ทรุดตัวลงแรงเหมือนกับหุ้นตัวอื่น ๆ และเมื่อตลาดหุ้นถึงจังหวะเด้งกลับ จึงกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาตะลุมบอน วานนี้จึงเป็นอีกวันที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 30.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.82% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.69 พันล้านบาทอย่างสวยงามเจ้าค่ะ
เมาท์ถึงเรื่องดี ๆ ขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” ชอบเอ่ยถึงน้องท็อป TOP เป็นประจำ เพราะสิ่งที่เหนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาก็คือ บริษัทสางปัญหาได้ทีละเปลาะ จนสถานการณ์ของบริษัทนิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีฉันเลยมองการไล่ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 23.30 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 8.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 744 ล้านบาท เป็นจังหวะของการไหลตามน้ำของเหล่านักเล่นที่ชอบโหนกระแสนะจะบอกให้
ปิดท้ายกันที่เรื่องห้ามช็อตหุ้นชั่วคราวกันดีกว่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ก่อนหน้านี้บางโบรกเกรอ์หารับประทานกับเรื่องช็อตหุ้นเป็นเวลานานจริง ๆ แต่มันก็เป็นวิถีทางทำมาหากินของเขา เพียงแต่การห้ามช็อตหุ้นที่เกิดขึ้นมันทำให้มีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” จึงอยากสนับสนุนให้คงมาตรการดังกล่าวไว้ก่อน และรอจนทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยยกเลิกก็ได้..แมงเม่าร้องขอมานะคุณพี่
โมนิก้า: และทีมงาน