
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 155 จุด เอฟเฟกต์หุ้น Boeing ร่วง หลังจีนตอบโต้ภาษี “ทรัมป์”
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทชะลอตัวเล็กน้อย นักลงทุนยังคงกังวลต่อแนวนโยบายภาษีที่ไม่ชัดเจนของ “ทรัมป์” ดัชนีดาวโจนส์นำการปรับฐาน จากแรงขายในหุ้น Boeing และกลุ่มยานยนต์ จากการตอบโต้กลับของจีน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร (15 เม.ย.68) ท่ามกลางบรรยากาศความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน โดยเฉพาะมาตรการภาษีที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 40,368.96 จุด ลดลง 155.83 จุด หรือ -0.38%
- ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,396.63 จุด ลดลง 9.34 จุด หรือ -0.17%
- ดัชนี Nasdaq Composite ปิดที่ 16,17 จุด ลดลง 8.38 จุด หรือ -0.049%
หุ้นที่ลดแรงที่สุดในดัชนีดาวโจนส์วานนี้คือ หุ้น Boeing ร่วงเกือบ 2.4% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งให้สายการบินภายในประเทศชะลอการจัดซื้อเครื่องบินจาก Boeing เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน รวมสูงถึง 145%
ขณะเดียวกัน ดัชนี S&P 500 และ Nasdaqปรับตัวลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยตลาดยังคงจับตาสัญญาณจากรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากทำเนียบขาวประกาศ “ยกเว้นภาษีชั่วคราว” สำหรับสินค้าเทคโนโลยีบางรายการจากจีน เมื่อวันศุกร์ (11 เม.ย.68)อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาเน้นย้ำว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดในช่วงนี้
นอกจากนี้ เอกสารของ Federal Register ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (14 เม.ย.) ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนนำเข้ายา และเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้ง 2 ประเภท ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันใหม่ให้กับภาคธุรกิจเทคโนโลยีและสุขภาพ
ในกลุ่มยานยนต์ หุ้น Ford ปรับตัวลดลง 2.7% ขณะที่ General Motors ร่วง 1.3% หลังนักวิเคราะห์จาก Barclays ปรับลดคำแนะนำการลงทุน โดยเตือนว่ามาตรการภาษีนำเข้าสินค้า อาจกระทบรายได้ของบริษัทในกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุนยังรอฟังถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมของสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโก (Economic Club of Chicago) ในวันนี้ (16 เม.ย.68) เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ