
SET พลิกปิดรูด 16 จุด ท่ามกลางกระแสข่าวมะกันเลื่อนคุยไร้กำหนด หลังยกระดับเทรดวอร์จีน
SET ปิดลบ 16 จุด สะพัดรัฐบาลวอชิงตัน ดี.ซี. เลื่อนเจรจาการค้ารัฐบาลไทยไร้กำหนด ขณะที่จีนประกาศตอบโต้ทุกประเทศที่ร่วมเจรจาการค้าสหรัฐ ฟากโบรกมองมีโอกาสปรับลงต่อ ให้กรอบแนวรับ 1,120 จุด แนวต้าน 1,140 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,134.71 จุด ลดลง 16.24 จุด (-1.41%) มูลค่าการซื้อขาย 32,465.37 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 เม.ย.68) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,134.71 จุด ลดลง 16.24 จุด หรือ 1.41% สูงสุดที่ระดับ 1,153.83 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,130.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,465.37 ล้านบาท ภายหลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการที่รัฐบาลวอชิงตัน ดี.ซี. เลื่อนกำหนดการเจรจาทางการค้ากับรัฐบาลไทยออกไปไม่มีกำหนด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปสหรัฐฯ ยังรอการตอบรับและกำหนดจาก ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (ยูเอสทีอาร์ ) ซึ่ง กระทรวงพาณิชย์ ติดต่อมาตลอด เพียงรอคิวว่าจะได้เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย หรือ “ทีมไทยแลนด์” ที่จะไปเป็นตัวแทนในการเจรจา โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหากมีความคืบหน้าจะมีการรายงานต่อไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ ได้เตือนประเทศต่างๆ ว่าการเลือกเข้าข้างจีนในด้านการค้าเปรียบเสมือน “การทำร้ายตัวเอง” และย้ำว่าการร่วมมือกับจีนอาจส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศเหล่านั้นในระยะยาว
ส่วน กระทรวงพาณิชย์จีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 เตือนอย่างชัดเจนว่า จีนจะตอบโต้ทุกประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐฯ ในลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของจีน ซึ่งสะท้อนความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลก และขณะนี้กำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลงค่อนข้างแรง จากความกังวลสงครามการค้ารุนแรงขึ้น หลังสหรัฐเรียกร้องประเทศอื่น ๆ ลดการค้ากับจีน ขณะที่จีนประกาศเตือนประเทศต่าง ๆ ที่ทำข้อตกลงร่วมกับสหรัฐในลักษณะที่ทำความเสียหายต่อผลประโยชน์ของจีนจะถูกตอบโต้อย่างหนัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในภาวะ Risk-off มีแรงขายออกมาแรง
โดยบ้านเราวันนี้กลุ่มธนาคารร่วงลงถ่วงตลาดจากความกังวลสงครามการค้าที่รุนแรงจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยหลายสำนักเริ่มปรับประมาณการ GDP ลงต่ำกว่า 2% และปัจจัยดังกล่าวอาจกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ขณะที่ แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดมีโอกาสปรับลงต่อ ยังไร้ปัจจัยบวกและถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก แนะติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/68 จากการรายงานของกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ไม่ได้เติบโตมากตามคาด ซึ่งหุ้นกลุ่มอื่นอาจจะไม่เติบโตมากเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ตลาดอาจยังอยู่ในภาวะ Risk-Off ต่อ โดยให้กรอบแนวรับ 1,120 จุดและแนวต้าน 1,140 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,428.61 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,016.60 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,525.28 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,437.58 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,428.87 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท ลดลง 1.10 บาท