TRUBB ยื่นอุทธรณ์ พิพาทที่ดินสวนยาง 237 ไร่ สูญสิทธิใช้ประโยชน์ 25 ล้านบาท
TRUBB อัพเดตคืบหน้าคดีพิพาทที่ดินสวนยาง 237 ไร่ บริษัทย่อยเตรียมยื่นอุทธรณ์ หลังศาลมีคำสั่งขับไล่ออกจากพื้นที่ คาดอาจสูญสิทธิใช้ประโยชน์รวม 25 ล้านบาท ตั้งด้อยค่าทรัพย์สินแล้ว 3.9 ล้านบาท
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีแพ่งเพื่อขับไล่ออกจากที่ดินพิพาท โดยไม่ต้องทำลายต้นยางพาราที่ปลูกในที่ดินพิพาท ซึ่งอ้างว่าที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ซึ่งบริษัทย่อยอ้างว่าได้ซื้อที่ดินพิพาทที่มีโฉนดดังกล่าวประมาณ 237 ไร่ จากชาวบ้านและได้เข้าครอบครองอย่างเปิดเผย ทำประโยชน์ด้วยการปลูกสวนยางพาราเต็มพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2549
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแต่ต้องชดใช้ค่าต้นยางพาราให้บริษัทย่อยประมาณ 7.1 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย และให้บริษัทย่อยชำระค่าขาดประโยชน์และค่าฤชาธรรมเนียมแทน โจทก์ประมาณ 0.8 ล้านบาท นอกจากค่าเสียหายข้างต้น บริษัทย่อยอาจมีความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิการ ใช้ประโยชน์ในที่ดินและต้นทุนการพัฒนาสวนยางเป็นจำนวนรวม 25.10 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทย่อย ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหากที่ดินอยู่ในข่ายมีคำสั่งเพิกถอนขอให้เร่งดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว เพื่อที่บริษัทย่อยจะได้นำแถลงต่อศาลอุทธรณ์เพื่อประกอบการวินิจฉัยคดีให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทย่อยได้ตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วจำนวนรวม 1.3 ล้านบาท และค่าเผื่อการด้อยค่าของสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินจำนวน 3.9 ล้านบาท
ขณะที่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 บริษัทย่อยได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเรียนว่าหากมีความคืบหน้าของทั้งสองคดีจะแจ้งกับให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบต่อไป
