
ดันแล้วทุบ?
ต้องเรียนตามตรงว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อีฉันประเมินสถานการณ์หลายอย่างผิดไปอย่างมีนัยสำคัญ
ต้องเรียนตามตรงว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อีฉันประเมินสถานการณ์หลายอย่างผิดไปอย่างมีนัยสำคัญ เพราะในวันที่มีความหวังต่อรัฐบาลเพื่อไทยทีไร ต่อจากนั้นรัฐบาล “เพื่อใคร..อุ๊ย..เพื่อไทย” มักดับความหวังทุกที “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องราวของรัฐบาลชุดนี้ น่าจะเป็นเพียงการละครที่ขาเผือกเขาชอบแซวกันอย่างสนุกปาก หลังผลงานที่รังสรรค์ออกมาแต่ละชิ้น มันดูไม่ได้เลยพับผ่าสิ!
ในเมื่อระยะสั้น ๆ ยังไม่มีความชัดเจนอะไรเลย “โมนิก้า” จำเป็นต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,144.05 จุด บวกไป 9.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.56 หมื่นล้านบาท โดยดัชนีแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งวัน มันเป็นภาพที่ยืนยันความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทยใช่ไหม? และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ วันนี้หุ้นไทยมีโอกาสเดินหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,150 จุดนะจะบอกให้
น่าเสียดายที่ความคิดของ “โมนิก้า” สวนทางกับกูรูส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทย หลังมีคำแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดในระดับที่สูงกว่า 50% ของพอร์ต ซึ่งเป็นผลมาจากความวุ่นวายที่เกี่ยวกับเทรดวอร์ยังไม่ได้ข้อยุติ ขณะเดียวกันก็มีความกังวลเกี่ยวกับผลงานของบริษัทในไตรมาส 2 อาจพลาดเป้า เดี๊ยนถึงไม่อยากมีอารมณ์ร่วมกับการทะยานขึ้นของดัชนีวานนี้ เพราะเจ็บช้ำกับการหลงระเริงแสงสีเขียว ๆ มาหลายรอบน่ะซี
เหมือนกับการขึ้นของหุ้น DELTA พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 69.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มดีเหลือเกิน แต่ถ้ามองถอยหลังกลับไปในช่วง 2 สัปดาห์จะเห็นว่า ราคาหุ้นก็แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นเริ่มขยับตัว เพราะราคาหุ้นคงขึ้นไปได้ไม่ไกล หลังเทรดวอร์ยังค้ำคอไงล่ะคะ
ส่วนเรื่องที่ทำให้สังคมขาเผือกเมาท์กันสนั่นหวั่นไหว คงเป็นเหตุการณ์ที่คุณพี่ “สารัชถ์” ขายหุ้น GULF ที่ราคา 46 บาท เป็นจำนวน 8.57 ล้านหุ้น พร้อมกับรับเงินสดเข้ากระเป๋าเหนาะ ๆ 400 ล้านบาท มันทำให้ผู้คนสงสัยว่า อิหยัง! พร้อมกับซุบซิบนินทาไปต่าง ๆ นานา ว่า ทำไมรีบขายเหลือเกิน! “โมนิก้า” ในฐานะคนที่ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ จึงไม่ขอคอมเมนต์อะไรเพิ่มเติม เพราะสังคมได้เม้าท์กันไปหมดแล้วเจ้าค่ะ
สำหรับหุ้นรายถัดมาที่ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงเหลือเกินก็คือ BTS เพราะเป็นหุ้นที่มีแรงซื้อรอบใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ จนวานนี้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.05 บาท บวกไป 0.33 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 376 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 5.50 บาทในไม่ช้า ผนวกกับเที่ยวนี้เป็นเกมที่นักลงทุนสถาบันเดินหน้าลุยอีกครั้ง จึงเป็นช็อตที่ได้ลุ้นยาว ๆ นะจะบอกให้
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงพ่อดอกมะลิ JAS ขึ้นมาทันที เพราะเมื่อดูจากแรงซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งวัน จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.54 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกระหึ่มว่า ปีนี้ผลงานบรรเจิดแน่นอนแบบนี้ มันเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบไม่มีข้อแม้อะไรทั้งสิ้น เพราะเขามาด้วยเกมทุ่มตลาดแบบสุดซอยจ้า!
ตบท้ายที่หุ้นน้องใหม่ไฟแรงอย่าง BKA เพื่อชี้ให้เห็นสตอรี่ที่ทำให้ราคาหุ้นเปิดสวย และมีแรงซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน ล้วนมาจากราคาขายไอพีโอที่มีดิสเคาต์ให้สุด ๆ ผนวกกับนักลงทุนรับรู้ว่า หุ้นตัวนี้เป็นธุรกิจบริการที่ขายหุ้นเท่ากับธุรกิจอสังหาฯ บรรดานักเล่นเลยเชื่อว่า เงินระดมทุนที่ได้มาเที่ยวนี้จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 2.46 บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 36.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 572 ล้านบาทไงล่ะคะ
โมนิก้า: และทีมงาน