‘ทรัมป์’ เลิกพองขน

หลังจาก “ทรัมป์” แสดงอาการพองขนเป็นเวลาร่วม 3 สัปดาห์ และเพิ่งจะปากแจ๋วใส่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ “เจอโรม พาวเวลล์” พร้อมกับประกาศกร้าวจะสั่งปลดลงจากตำแหน่ง


หลังจาก “ทรัมป์” แสดงอาการพองขนเป็นเวลาร่วม 3 สัปดาห์ และเพิ่งจะปากแจ๋วใส่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ “เจอโรม พาวเวลล์” พร้อมกับประกาศกร้าวจะสั่งปลดลงจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายก็ออกมาพลิกลิ้นโดยไม่รู้สึกกระดากใจว่า ไม่มีแผนปลดแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่อุบาทว์สุด ๆ สำหรับคนที่พยายามยกตัวเองเป็นผู้นำโลก เพื่อให้ทุกคนเดินตามก้นของตัวเองนะจะบอกให้

ถึงกระนั้นอีฉันก็รู้สึกดีใจที่ประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เริ่มหันมาพูดคุยกันเองมากขึ้น และสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ท่าทีของ “ญี่ปุ่น” กับ “จีน” ที่พยายามเร่งหาข้อสรุปเกี่ยวกับการค้าในอนาคตนั้น ถือเป็นการตบหน้าอเมริกาฉาดใหญ่ให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ยังมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าไปเป็นลูกกระจ๊อกเธอ ซึ่งทำให้อเมริกาต้องออกมาพูดเสียงอ่อย ๆ ว่า ยินดีรับฟังข้อเสนอของประเทศต่าง ๆ แบบนี้..ชาวหุ้นเขาถึงเม้าท์กันว่า เลิกโอหังแล้วชิมิ!

เมื่อสถานการณ์ออกไปในทางที่คลี่คลายเป็นลำดับ ก็ทำให้หุ้นทั่วโลกเด้งกลับขึ้นมาเป็นแถว วานนี้จึงเห็นตลาดหุ้นไทยขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,153.77 จุด บวกไป 9.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.82 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นใหญ่บางตัวกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งแบบนี้ มันกลายเป็นเกมที่ทำให้นักเล่นเกิดอาการอยากตามไปดูกันเป็นแถว หลังแรงซื้อที่เข้ามาเที่ยวนี้..ไหลกลับไปที่หุ้นร้อนที่เคยสร้างความกังวลให้กับนักเล่นน่ะซี

โดยเฉพาะตัวแบกหุ้นไทยอย่าง DELTA มีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากแบบไม่คาดฝัน จนราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 76.50 บาท บวกไป 7.25 บาท หรือขึ้นไป 10.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.16 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อได้ว่า สถานการณ์วันนี้แตกต่างจากวันก่อน และตัวเร่งที่ทำให้หลายอย่างดีขึ้นเป็นลำดับ ล้วนมาจากอเมริกาเลิกพองขนไงล่ะคะ

อีกรายที่ “น่ารัก น่าลุ้น” คงมองไปที่หุ้น CCET หลังขยับตัวขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.55 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 592 ล้านบาท เหมือนส่งสัญญาณให้รูว่า ขาประจำกลับมาแล้ว! ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับเรื่อง “เทรดวอร์” คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แถมทุกคนยังมองไปในทางเดียวกันว่า บริษัทมีโอกาสโตได้ตามแผนที่วางไว้ จึงทำให้การขึ้นไปยืนเหนือฐานเก่าที่ 6 บาท ไม่ใช่เรื่องยากพะย่ะค่ะ

ส่วนรายที่ยากของจริงกลายเป็น TTB ซึ่งมีแรงขายออกมาเป็นระลอก ท่ามกลางหุ้นแบงก์ตัวอื่น ๆ เริ่มเด้งกลับแบบนี้ “โมนิก้า” เลยตีความได้อย่างเดียวว่า แบงก์อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร จึงทำให้นักเล่นขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงออกไปก่อน วานนี้จึงเห็นหุ้นทำได้แค่ประคองตัว ก่อนจะปิดเสมอตัวที่ระดับ 1.81 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 867 ล้านบาทแบบหืดขึ้นคอเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ VGI ที่เกิดอาการแป้กแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะการพลิกโฉมธุรกิจไม่ตามแผนที่วางไว้ ทำให้ราคาเป๋หนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่า ราคาหุ้นเริ่มตั้งหลักได้แล้วในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า การย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 2.24 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211 ล้านบาท น่าจะเป็นการทดสอบแรงขายให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยเดินหน้าขึ้นอีกครั้งกระมัง!

ตบท้ายกันที่หุ้น EA เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ของราคาหุ้นยังทรง ๆ และในบางวันก็มีการดันหุ้นขึ้นมาเป็นครั้งคราว แต่ในบางวันก็มีแรงขายออกมาเป็นระลอก เดี๊ยนจึงมองการยืนปิดที่ระดับ 2.12 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99 ล้านบาท เหมาะต่อการเล่นเก็งกำไร เพราะเที่ยวก่อนหุ้นก็ลงมาแถว 2 บาท ต่อจากนั้นก็เด้งขึ้นไปแถว 2.24 บาทไงล่ะคะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button