CGSI มอง SET ไซด์เวย์อัพกรอบ 1,135-1,170 จุด แนะลงทุน HANA-ฺBJC เด่น

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (24 เม.ย.68) คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideway to Sideway up บริเวณ 1,135-1,170 จุด โดยมีแรงสนับสนุนตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับความหวังสงครามการค้าผ่อนคลายลงและคลายความกังวลที่ว่าความเป็นอิสระของเฟดอาจจะถูกทรัมป์แทรกแซง

โดยวันนี้ จับตารายงานตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 13% จากปีก่อน เปรียบเทีรยกับเดือนก.พ. ขยายตัว 14% จากปีก่อน หลังฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าไตรมาส 1/68 จะเป็นไตรมาสที่มีการส่งออกสูงสุดจากการเร่งคำสั่งซื้อก่อนได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ และคาดว่าโมเมนตัมเชิงบวกนี้จะยังคงมีถึงไตรมาส 2/68 หลังทรัมป์ชะลอการเรียกเก็บ Reciprocal Tariffs ออกไป 90 วัน ซึ่งในช่วงที่ประเด็นนี้ยังคง Overhang

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงคงคำแนะนำ Selective Buy ในระยะสั้น เก็งกำไรตัวเลขส่งออกและผลประกอบการไตรมาส 1/68

โดย Consensus คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 จะขยายตัว 5.5% จากปีก่อนหน้า และขยายตัว 36.3% จากไตรมาสก่อนโดย Sector ที่โตสูงสุดเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ได้แก่ กลุ่ม packaging คือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, ICT คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA และ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE และขยายตัวได้ดีจากปีก่อนหน้า ได้แก่ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC

บริการรับเหมาก่อสร้าง คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON และกลุ่มอาหาร คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI และ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI

อีกทั้ง ได้ทำการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มที่ Consensus คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ขยายตัวและขยายตัวจากไตรมาสก่อนโดยเลือกเฉพาะหุ้นที่มี Consensus rating outperform ขึ้นไป, Earnings growth เป็นบวก, มี Beta และ Volatility สูง ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR, ADVANC, CPF, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนหุ้นแนะนำ คือ HANA เก็งกำไรก่อนการรายงานตัวเลขส่งออกไทยเดือนมี.ค. เนื่องจากอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย ทั้งนี้ เรามองว่าการที่ HANA มีสถานะเงินสดสุทธิแข็งแกร่งจะช่วยป้องกัน downside

(Take profit : 19.3 / Stop loss : 17.8)

BJC ฝ่ายนักวิเคราะห์เห็นสัญญาณที่ BigC จะฟื้นตัวเชิงโครงสร้างหลังเปลี่ยนจากเดิมที่เน้นรักษาอัตรากำไรเป็นการใช้กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายด้วยการปรับปรุงรูปแบบสาขาและขยายสัดส่วนสินค้าประเภทอาหารเชิงรุก

(Take profit : 25.25 / Stop loss : 23.8)