“กรภัทร” ชี้ SET ไซด์เวย์อัพ! ลุ้นเจรจาภาษีสหรัฐ-จีน แนะลงทุนธีมดอกเบี้ยขาลง-กลุ่มค้าปลีก

นายกรภัทร วรเชษฐ์ มองดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ แนะจับตาท่าทีสหรัฐเจรจาการค้าจีนช่วง 2 สัปดาห์นี้ พร้อมลงทุนธีมดอกเบี้ยขาลง, ค้าปลีก CPALL-BJC และ KCE รับจังหวะฟื้นตัว ให้กรอบแนวรับ 1,142 จุด แนวต้าน 1,167 จุด


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ (24 เม.ย.68) แนวโน้ม SET Index เคลื่อนไหว Sideway to Sideway up  เนื่องมาจาก โดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีการเจรจาภาษีการค้าระหว่างจีนในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าการเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าในระดับ 140% นั้น จำเป็นต้องลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เคยพูดถึงประเด็นนี้ไปแล้วว่า หากตั้งภาษีสูงถึง 140% จริง ๆ การค้าระหว่างสองประเทศจะหยุดชะงักลงอย่างแน่นอน เพราะแม้จะเก็บเพียง 50-60% ก็ทำให้ปริมาณการค้าหดหายไปถึง 80-85% แล้ว เหลือเพียง 15-20% จากระดับปกติเท่านั้น” นายกรภัทร กล่าว

ขณะที่ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความเห็นซึ่งแตกต่างจาก ทรัมป์ โดยระบุว่า ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการหารือหรือพูดคุยระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มว่าในท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองประเทศต้องมีการเจรจาการค้า ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และอินเดียที่เริ่มมีขอยุติระหว่างกันแล้วเรียบร้อยแล้ว โดยจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้มุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่หลายฝ่ายมองว่าจะเป็นลบ เริ่มมีทิศทางผ่อนคลายความกังวลลงทีละเล็กทีละน้อย

อีกประเด็นหนึ่งที่เริ่มมีการพูดถึงกัน คือ การที่ทางการกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์บางส่วน ซึ่งหากมีการปรับลดจริงก็อาจส่งผลบวกต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เช่น KCE และ DELTA ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก จึงอาจได้รับแรงหนุนให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น

จากปัจจัยเหล่านี้ ยังส่งผลต่อภาพรวมของหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของการค้าโลก หรือที่เรียกว่า Reopening Trade” โดยมีโอกาสที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น และยังรวมไปถึงกลุ่มโรงกลั่น เช่น SPRC, PTTGC และ IVL ซึ่งกลายเป็นกลุ่มที่ช่วยประคองดัชนี SET ในช่วงนี้

ขณะที่ ภาพนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ 23 เม.ย. ยังไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย แถมยังมีการขายสุทธิ อย่างไรก็ตาม ในตลาดพันธบัตรกลับมีความเคลื่อนไหวที่ต่างออกไป โดยต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตรไทยมากกว่า 10,000 ล้านบาท และในช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 07:00 น. ฝ่ายนักวิเคราะห์เห็นตัวเลข Net Buy เพิ่มขึ้นอีกกว่า 9,000 ล้านบาท

สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่านักลงทุนต่างชาติกำลังให้ความสำคัญกับเสถียรภาพของตลาดเงินไทย และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 5 ปี ที่ขณะนี้ลดลงราว 1.5% ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปี ก็เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแถว ๆ 1.8-1.9% ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงในระยะข้างหน้า

โดย ในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า แนวโน้มของดัชนี SET ของไทยยังคงอยู่ในลักษณะ “แกว่งตัวขึ้นแบบซิกแซก” หรือค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ ดัชนีมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,167 จุด แนวรับอยู่ที่ 1,142 จุด

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ ธีมดอกเบี้ยขาลง นอกจากนี้ กลุ่มค้าปลีก อย่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ก็น่าจับตามองเช่นกัน เพราะมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน หากมองไปยังกลุ่มเทคโนโลยีหรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แนะนำหุ้นที่น่าจับตา คือ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE

Back to top button