“เจพีมอร์แกน” ชี้ราคาทองคำปี 69 แตะ 4,000 ดอลลาร์ เหตุเศรษฐกิจโลกผันผวน

เจพี มอร์แกน ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาทองคำ โดยประเมินว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2569 และคาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 3,675 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568

โดยมุมมองเชิงบวกดังกล่าวมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ อาทิ ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน (Stagflation) ที่ได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงอุปสงค์ทองคำที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่ง ซึ่งคาดว่าความต้องการทองคำในปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 900 ตัน

นอกจากนี้ ความสนใจในการลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะผ่านกองทุน ETF และนักลงทุนจีน ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเจพี มอร์แกนประเมินว่า การรักษาแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำจะต้องมีอุปสงค์จากนักลงทุนและธนาคารกลางประมาณ 350 ตันต่อไตรมาส ทั้งนี้ ปริมาณทองคำที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 100 ตัน อาจช่วยผลักดันราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 2% ต่อไตรมาส

ในสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงและมีการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ด้านพันธมิตรทางการค้า ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ที่มีแนวโน้มส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ ได้แก่ การที่บริษัทประกันภัยในประเทศจีนได้รับอนุญาตให้ลงทุนในทองคำ ซึ่งอาจเพิ่มอุปสงค์ในตลาดประมาณ 250 ตัน ตลอดจนตลาดทองคำรายย่อยในจีนที่มีความแข็งแกร่ง ท่ามกลางความคาดหวังว่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลง

อย่างไรก็ตาม เจพี มอร์แกนยังระบุว่า หากมีการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ แสดงสัญญาณความแข็งแกร่งมากขึ้น อาจส่งผลลบต่อแนวโน้มราคาทองคำ โดยมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ แม้ภาวะตลาดจะมีความผันผวนในปัจจุบัน แต่ทิศทางการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยรวมยังคงอยู่ในเชิงบวก โดยในช่วงกลางเดือนเมษายน 2568 กองทุน ETF รายงานกระแสเงินทุนไหลเข้าในระดับที่มีนัยสำคัญ คิดเป็นปริมาณทองคำรวมประมาณ 324 ตัน