SET บ่ายเคลื่อนไหวกรอบแคบอิงขาลง แนะเล่น 6 หุ้น Laggard-ให้เงินปันผลสูง
โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (24 ก.พ.) ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบอิงขาลง ให้แนวต้าน 1,330 จุด และแนวรับที่ 1,320-1,310 จุดแนะเล่น 6 หุ้น Laggard+เงินปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (24 ก.พ.) ผันผวนในกรอบแคบ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบจากปัจจัยราคาน้ำมันปรับลดลงกดดันหุ้นโลก แต่บ้านเรายังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์-สื่อสารมาช่วยพยุงตลาด คาดเป็นการเวียนกลุ่มลงทุน และทำให้การเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดภูมิภาค คาดภาคบ่ายดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบอิงขาลง ให้แนวต้าน 1,330 จุด และแนวรับที่ 1,320-1,310 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบในทิศทางลง โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลังราคาน้ำมันปรับลดลง ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มน้ำมัน ขณะที่แรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศยังไม่ได้เข้ามาลงทุนอย่างชัดเจนมากนัก อาจเป็นเพียงการเทรดดิ้งในระยะสั้นเท่านั้น หลังภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศยังไม่ดีมากนัก หากจะมีเม็ดเงินไหลเข้าก็น่าจะอยู่เข้ามาในตลาดตราสารหนี้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีลักษณะเวียนกลุ่มการลงทุนหลังหุ้นพลังงานถูกกดันจากราคาน้ำมัน โดยยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มแบงก์และสื่อสาร ซึ่งช่วยให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไม่มากนัก และดูดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเล็กน้อย
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบอิงทิศทางลง หากยังมีแรงกดดันจากภายนอกอยู่ โดยให้แนวรับบริเวณ 1,320-1,310 และแนวต้านที่ 1,330 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 23 ก.พ.) ว่า SET แม้มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน และ PTT ปรับสูงขึ้นแรงเข้าใกล้แนวต้านทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม SET ยังดูแข็งแกร่ง จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร และสื่อสาร อย่าง SCB DTAC ประเมิน Downside Risk ของ SET จำกัด และคงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,350 จุด ต่อไป
โดยแนะนำ”ซื้อ”หุ้น Laggard Plays อย่าง CPN QHและ BEAUTY และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง INTUCH KTB และ SIRI (คาดเงินปันผล 7%)
ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” BEAUTY ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 6.20 บาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเป็น Laggard Play ทีน่าสนใจ โดยราคาหุ้นปรับลดลง 8.7% ตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่ SET ปรับสูงขึ้นเกือบ 3% ในช่วงเวลาเดียวกัน
อีกทั้งผลการดำเนินงานปี 58 คาดว่าจะมีกำไร 400 ล้านบาท หรือ +32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และการเติบโตยังดำเนินต่อไป +28-27% ในปี 59-60 หรือมีกำไร 510-650 ล้านบาท
ขณะเดียวกันแม้ PE สูงที่ 31x แต่ด้วย Brand Value ที่แข็งแกร่งประกอบกับ Upside จากการขยายสาขาไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น Upside Risk ต่อประมาณการ นอกจากนี้ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค MACD เกิดสัญญาณ “ซื้อ” แล้วตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน และกำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 5.35 บาท คาดว่าจะผ่านไปได้ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 5.60/5.95 บาท ตามลำดับ
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,305.54 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,035.38 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,027.05 ล้านบาท ปิดที่ 257.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 607.73 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 515.62 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท ลดลง 0.50 บาท