
พรีวิวงบ Q1 “กลุ่มวัสดุก่อสร้าง” กวาดกำไรแตะ 2.6 พันล้าน ชู DOHOME เด่น
พรีวิวงบไตรมาส 1/68 “กลุ่มวัสดุก่อสร้าง” กวาดกำไรแตะ 2.6 พันล้าน โบรกเชียร์ซื้อ DOHOME-HMPRO-GLOBAL รับประโยชน์จากความต้องการซ่อมแซมบ้านที่เพิ่มขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์กำไรรวมของกลุ่มค้าปลีกไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7.2% จากไตรมาสก่อนหน้า จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบ และค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ที่สูงขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่
สำหรับ SSSG เฉลี่ยไตรมาส 1/2568 ของผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน 3 รายอยู่ที่ -3.4% (-1.0% ในไตรมาส 4/2567) หนุนโดย SSSG ที่ติดลบที่มากขึ้นของ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO คาดความต้องการซ่อมแซมบ้านจะช่วยหนุนแนวโน้มการก่อสร้างได้เล็กน้อยในไตรมาส 2/2568 แต่ฟื้นตัวได้ช้าในครึ่งหลังปี 2568 จากการระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยประมาณการกำไรไตรมาส 1/2568 ของผู้ประกอบการขายปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน คาดว่ากำไรรวมของผู้ประกอบการขายปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านไตรมาส 1/2568 จะเพิ่มขึ้น 7.2% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท โดยมีกำไรที่เพิ่มขึ้นเชิงจากไตรมาสก่อนหน้า น่าจะมาจากกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นของ DOHOME และ GLOBAL เป็นหลัก
ขณะที่กำไรของ HMPRO น่าจะลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า จากอัตรากำไรขั้นต้นที่แคบลง ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่า บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME จะรายงานการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งที่สุดที่ 52.8% จากไตรมาสก่อนหน้า จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า รองลงมาคือ GLOBAL ที่เพิ่มขึ้น 23.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่คาดว่ากำไรของ HMPRO จะลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 1.9% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 1.7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ SSSG ไตรมาส 1/2568 อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ไตรมาส 1/2568 ของผู้ประกอบการขายปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านติดลบมากขึ้นที่ -3.4% จากกิจกรรมก่อสร้างที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นการคำนวณร่วมกันระหว่าง SSSG ไตรมาส 1/2568 ของ DOHOME ที่ 1%, GLOBAL ที่ -8% และ HMPRO ที่ -3% โดยในช่วงเดือน ม.ค-มี.ค.2568 ในการบริโภคในเดือน ม.ค. ถือเป็นเดือนที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากได้รับประโยชน์จากมาตราจูงใจทางภาษี “E-Tax” ในขณะที่เดือนที่อ่อนแอที่สุดคือเดือน ก.พ. เนื่องมาจากผลกระทบของปีอธิกสุรทินในปี 2567 และพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นของผู้บริโภค
ส่วนการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 คาดว่ายอดขายรวมไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 3.45 หมื่นล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะลดลง 0.01% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 0.90% จากไตรมาสก่อนหน้าเป็น 25% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการขายของสินค้า และอัตรากำไรขั้นต้นของยอดขายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่ลดลงของ GLOBAL และ HMPRO ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4 ppt เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดสาขาใหม่ แต่ลดลง 1.7 ppt จากฐานยอดขายที่เพิ่มขึ้น
สำหรับประโยชน์จากความต้องการซ่อมแซมบ้านที่เพิ่มขึ้น แต่จะฟื้นตัวช้าลงในอนาคต หากพิจารณาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ผู้ขายปลีกสินค้าตกแต่งบ้านอาจได้รับประโยชน์เล็กน้อยจากความต้องการซ่อมแซมบ้านในกรุงเทพฯ ในระยะสั้น ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่า HMPRO จะได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ดังกล่าว เนื่องจากมีสัดส่วนยอดขายสูงสุดที่ 35-40% ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ทางฝ่ายวิจัยกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ซื้อคอนโด และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยทางฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐาน SSSG ปี 2568 ของเราจากแนวโน้มกิจกรรมการก่อสร้างที่อ่อนแอ โดยปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลงที่ 6.3% และในปี 2569 ปรับลงที่ 9.3% ส่วนของ HMPRO ในปี 2568 ถูกปรับลง 5.3% และในปี 2569 ปรับลง 3.1% แต่คงสมตติฐานกำไรเดิมสำหรับ GLOBAL
โดยมุมมองทาง KS แนะ “ซื้อ” DOHOME ปรับราคาเป้าหมายเป็น 6 บาท และ HMPRO โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 9.8 บาท ขณะที่ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ GLOBAL จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เนื่องจากมี Upside ที่น่าสนใจมากขึ้น แต่คงราคาเป้าหมายของ GLOBAL ไว้ตามเดิมที่ 7.6 บาท