
PTTEP บวก 1% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” รับบงกชคืนกำลังผลิต หนุนยอดขายแตะ 5 แสนบาร์เรลปีนี้
PTTEP ดีดบวก 1% โบรกฯชี้ราคาสะท้อนน้ำมันโลกอ่อนตัวแล้ว-ลุ้นไตรมาส 2/68 ฟื้นเด่น จากแหล่งบงกชกลับมาผลิต หนุนยอดขายปีนี้ทะลุ 5 แสนบาร์เรล/วัน แนะ “ซื้อ” เป้า 137 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25เม.ย.68 ) ราคาหุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 14:27 น. อยู่ที่ระดับ 99.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 1.02% ราคาสูงสุด 99.75 บาท ราคาต่ำสุด 98.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 667.45 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาหุ้น PTTEP ลดลง สะท้อนราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงแล้ว ขณะที่อัตราเงินปันผลยังสูง ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมายใหม่เป็น 137 บาทต่อหุ้น แต่ด้วยผลของการปรับลดประมาณการกำไร ทำให้คาดการจ่ายเงินปันผลที่ลดลงด้วยเป็น 8.75 บาทต่อหุ้น (Payout 49%) ลดลง 9% จากปีก่อน แต่หากเทียบกับราคาหุ้นที่ลดลงแรง 8% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราเงินปันผลยังสูงและน่าสนใจถึง 8.3%
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุบทวิเคราะห์ว่า PTTEP แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2568 ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปกติของ PTTEP จะยังคงทรงตัวในระดับใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ราว 16,000 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% จากการกลับมาผลิตของแหล่งบงกช หลังจากปิดซ่อม ซึ่งจะช่วยชดเชยแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากความกังวลด้านสงครามการค้าโลก
ทั้งนี้ KSS ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTTEP ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ระดับ 140 บาทต่อหุ้น แม้อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ โดยให้เหตุผลว่าบริษัทยังมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลสูงต่อเนื่องในช่วงปี 2568-2570 แม้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยจะลดลงเหลือเพียง 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยยังมองว่า แม้ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วงโควิด (112 บาท/หุ้น) แต่กำไร, ปริมาณขาย และปริมาณสำรอง (reserves) ของบริษัทกลับอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนและระหว่างวิกฤตโควิด ขณะที่ระดับราคาหุ้นซื้อขายอยู่ที่ค่า P/E ราว 6–7 เท่า ซึ่งถือว่ามีความน่าสนใจในเชิงมูลค่า (valuation)
โดยล่าสุดวันนี้ PTTEP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิ 16,560.98 ล้านบาท ลดลง 11.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18,682.82 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/68 มีปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 484,218 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 2% เทียบจากไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 473,048 บาร์เรลต่อวันล ซึ่งส่วนใหญ่จากโครงการจี 1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซ ธรรมชาติในเดือนมีนาคม 2567 และโครงการมาเลเซีย แปลงเค มีการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 76.94 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 3.32% เทียบไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 81.22 เหรียญต่อบาร์เรล โดยหลักเนื่องจาก ราคาขายน้ำมันดิบลดลงตามราคาตลาด รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการจี 1/61 ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งโครงการจี 2/61 มีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ไตรมาส 1 /2568 มีปริมาณขายเฉลี่ย 484,218 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 3% จากไตรมาส 4 /2567 โดยหลักจากการขายน้ำมันดิบและคอนเดนเสทลดลงของโครงการโอมาน แปลง 6 โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ราเคซ และโครงการโอมาน แปลง 61 สุทธิกับโครงการมาเลเซีย แปลงเค ที่มีการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ส่วนปริมาณขายก๊าซธรรมชาติลดลงเล็กน้อย จากโครงการจี 2/61 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาสนี้สุทธิกับโครงการจี 1/61 ที่การปิดซ่อมบำรุงลดลง
ด้านนายเสริมศักดิ์ สัจจะวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน PTTEP กล่าวไว้ก่อนหน้าว่า ในปี 2568 ปตท.สผ. ตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 5-5.1 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีปริมาณการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.8 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากจะรับรู้กำลังผลิตเต็มปี จากโครงการ G1/61(เอราวัณ) ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติทั้งปี 2568 อยู่ที่ 5.8 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน และ Unit Cost เฉลี่ย 29-30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และรักษาอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ไว้ที่ 70-75%