
“กรมอุตุ” เตือน “พายุฤดูร้อน” ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.–1 พ.ค. ฝนคะนอง-ลมแรง-ลูกเห็บตก
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัยพายุฤดูร้อนทั่วไทยตอนบนช่วง 26 เม.ย.–1 พ.ค. 68 คาดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง พร้อมแนะประชาชน-เกษตรกรเตรียมการป้องกันภัยล่วงหน้า
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568 โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าในบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 26–27 เมษายน 2568 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ขณะที่บริเวณดังกล่าวมีสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับในช่วงวันที่ 28 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้เกิดการปะทะของมวลอากาศร้อนและเย็น ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง
โดยกรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง โดยควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางที่มีพายุฝนฟ้าคะนองหรือพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก
โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีข้อจำกัดในการระบายน้ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้น นอกจากนี้เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้กับไม้ผล โรงเรือน และสัตว์เลี้ยง พร้อมเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย
สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนในวันที่ 26 เมษายน 2568 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงจังหวัดลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในภาคกลาง และจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดในภาคตะวันออก
วันที่ 27 เมษายน 2568 พื้นที่จะขยายไปยังจังหวัดตาก แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ในภาคเหนือ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงครามในภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดในภาคตะวันออก รวมถึงจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ในภาคใต้
ส่วนในช่วงวันที่ 28–29 เมษายน 2568 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตากในภาคเหนือ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี และสระบุรีในภาคกลาง
ขณะที่ในช่วงวันที่ 30 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568 พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบยังคงครอบคลุมภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ และขอนแก่น และภาคกลาง ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และลพบุรี
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อความปลอดภัยจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงเวลาดังกล่าว