
REIC ชี้ตลาดที่อยู่อาศัย “ภาคกลาง” ซบเซา “ภาคตะวันตก” โตแรงรับท่องเที่ยวฟื้น
REIC เผยตลาดที่อยู่อาศัย “ภาคกลาง” ซบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วน “ภาคตะวันตก” ยอดขายเติบโตจากกำลังซื้อชาวต่างชาติและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคกลางและภาคตะวันตกช่วงครึ่งหลังปี 2567 โดยในภาคกลางซึ่งครอบคลุมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสระบุรี พบว่ากำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ จึงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคตะวันตกในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์มีความคึกคักต่อเนื่อง 3 ไตรมาส จากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวและกำลังซื้อชาวต่างชาติ
ภาคกลาง จำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ลดลง 20.5% ส่งผลให้หน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้น 30.2% โดยมีที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด 11,851 หน่วย มูลค่า 39,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% และ 33.4% ตามลำดับ มีโครงการใหม่เพียง 724 หน่วย ลดลง 22.2% มูลค่า 2,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.6% ขณะที่ยอดขายใหม่ 860 หน่วย ลดลง 20.5% มูลค่าลดลง 10.1% อยู่ที่ 2,609 ล้านบาท
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวม 9,061 หน่วย มูลค่า 30,649 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.0% และ 27.0% ตามลำดับ โดยยอดขายใหม่ลดลง 28.9% มีหน่วยเหลือขาย 8,329 หน่วย เพิ่มขึ้น 26.5% มูลค่า 28,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.5% ทำเลที่ขายได้ใหม่สูงสุดได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ (491 หน่วย มูลค่า 1,600 ล้านบาท) วังน้อย (146 หน่วย มูลค่า 347 ล้านบาท) และนิคมบางปะอิน (90 หน่วย มูลค่า 198 ล้านบาท)
จังหวัดสระบุรี มีที่อยู่อาศัยเสนอขาย 2,790 หน่วย เพิ่มขึ้น 46.2% มูลค่า 8,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.0% โดยมียอดขายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 146.2% ที่ 128 หน่วย มูลค่า 447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302.6% หน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้น 43.4% มูลค่า 8,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.0% ทำเลขายได้ใหม่สูงสุดได้แก่ หนองแค (53 หน่วย มูลค่า 158 ล้านบาท) แก่งคอย (43 หน่วย มูลค่า 180 ล้านบาท) และเมืองสระบุรี (30 หน่วย มูลค่า 105 ล้านบาท)
ขณะที่ภาคตะวันตก ภาพรวมตลาดสดใส โดยมีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่เพิ่มขึ้น 7.3% หน่วยเหลือขายลดลง 15.4% มีหน่วยเสนอขายทั้งหมด 5,198 หน่วย มูลค่า 30,775 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 2,123 หน่วย มูลค่า 11,910 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร 3,075 หน่วย มูลค่า 18,865 ล้านบาท
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีที่อยู่อาศัยเสนอขาย 2,988 หน่วย ลดลง 2.2% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 9.8% อยู่ที่ 21,330 ล้านบาท โดยหน่วยเปิดขายใหม่ 645 หน่วย ลดลงเล็กน้อย 1.1% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 1.6% ที่ 5,178 ล้านบาท ยอดขายใหม่เติบโต 23.3% อยู่ที่ 613 หน่วย มูลค่า 3,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.0% หน่วยเหลือขายลดลง 7.2% อยู่ที่ 2,375 หน่วย มูลค่า 17,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% ทำเลขายดีได้แก่ เขาตะเกียบ (224 หน่วย มูลค่า 1,969 ล้านบาท) และเขาหินเหล็กไฟ (153 หน่วย มูลค่า 961 ล้านบาท)
ส่วนจังหวัดเพชรบุรี มีที่อยู่อาศัยเสนอขาย 2,210 หน่วย ลดลง 23.0% มูลค่า 9,445 ล้านบาท ลดลง 26.0% มีหน่วยเปิดขายใหม่ 140 หน่วย ลดลง 32.4% มูลค่า 581 ล้านบาท ลดลง 63.1% ยอดขายใหม่ลดลง 17.2% อยู่ที่ 269 หน่วย มูลค่า 1,170 ล้านบาท ลดลง 28.0% หน่วยเหลือขายลดลง 23.8% ที่ 1,941 หน่วย มูลค่า 8,275 ล้านบาท ลดลง 25.7% ทำเลขายดีอันดับหนึ่งยังเป็นชะอำ (191 หน่วย มูลค่า 866 ล้านบาท)
โดย REIC ระบุว่าตลาดที่อยู่อาศัยในภาคกลางยังต้องเผชิญความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและกำลังซื้อที่จำกัด ขณะที่ภาคตะวันตกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนด้านการท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ