
“ประเสริฐ” ลงพื้นที่นครพนม เร่งจัดที่ดินทำกิน คทช. มอบสมุดสิทธิ 819 แปลง
รองนายกรัฐมนตรีประเสริฐ ลงพื้นเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงชนบท พื้นที่ป่าดงเซกา จังหวัดนครพนม ช่วยเหลือชาวบ้านแก้ไขปัญหาที่ทำดิน เสริมสร้างที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 เม.ย. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และคณะลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)
พร้อมรับฟังรายงานผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และผลการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชนบทในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 2 จังหวัดนครพนม ปัญหาอุปสรรคและความต้องการของราษฎรในพื้นที่ และมอบนโยบายแก่สวนราชการที่เกี่ยวข้อง
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้พบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการ เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ชุมชน และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบ้านโพนสว่าง และป่าปลาปาก รวมจำนวน 819 แปลง ให้กับผู้แทนชุมชน จำนวน 10 คน
ทั้งนี้ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านของสมาชิกบ้านมั่นคง หมู่ที่ 7 บ้านพรเจริญ ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง ร่วมให้การต้อนรับและรายผลการดำเนินงานฯ ณ วัดป่าบ้านพรเจริญ ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ด้าน นายประเสริฐ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแทบทุกจังหวัดของประเทศ ซึ่งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยและผมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
อย่างที่คงทราบกันดีว่าการอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คทช. กำหนด มีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ และต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามผมในฐานะประธาน คทช. จะพยายามเร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่มีที่ดินเป็นของตนเองให้ได้สิทธิการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจังหวัดนครพนมมีพื้นที่เป้าหมายที่จัดที่ดินทำกิน คทช. รวม 6 พื้นที่
โดยทราบว่ามี 2 พื้นที่เป้าหมาย คือ ป่าดงหมู (ระยะที่ 1) บ้านโสกแมว กับ ป่าห้วยศรีคุณ ได้รับมอบสมุดแล้ว ส่วนป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 1 ได้รับเล่มไปบางส่วนแล้วที่เหลือจะเร่งดำเนินการ สำหรับป่าบ้านโพนตูมและป่านางุม ที่กำลังจะได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้จะสั่งการเพื่อเร่งรัดให้เร็วขึ้น เนื่องจากตอนนี้ยุโรปได้มีมาตรการ EUDR หรือการจะนำสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการนี้เข้าไปขายในยุโรป
รวมไปถึงการมีกระบวนการผลิตรวมถึงแหล่งวัตถุดิบที่ถูกต้อง จะต้องไม่มาจากการทำลายป่า ต้องเป็นพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนจากพื้นที่ป่าดงบ้านโพนสว่างและป่าปลาปาก ที่ได้รับสมุดประจำตัวฯ คทช. ในวันนี้ที่มีการมอบสมุด 819 แปลง ส่วนที่เหลือกรมที่ดินกำลังตรวจสอบและจัดทำสมุดให้เร็วที่สุด และขอฝากกับตัวแทนพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตามประชุมแห่งนี้ไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของท่าน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลรักษาพื้นที่ คทช. ไม่ให้ถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของสังคม และในฐานะที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล จะสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการที่ดิน การจัดทำสมุดประจำตัวแบบดิจิทัลที่สามารถเข้าไปดูข้อมูลของตัวเองผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การจัดที่ดิน คทช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผมขอใช้โอกาสนี้ ในการมอบนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1.) ขอให้กรมที่ดิน และ คทช. จังหวัดเร่งรัดจัดสมุดประจำตัวให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่แปลงที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว แต่ยังมอบสมุดไม่ครบ เช่น พื้นที่ป่าดงเซกาแปลงที่ 2 ระยะที่ 2 หากเป็นไปได้ขอให้ดำเนินการ
ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568
2.) ขอให้กรมป่าไม้ เร่งดำเนินการอนุญาตในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโพนตูมและป่านางุม โดยเร็ว
3.) ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ก็ขอให้ คทช.จังหวัด เร่งรัดการจัดราษฎรเข้าทำประโยชน์ และเตรียมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
4.) การคัดเลือกบุคคลให้ได้รับที่ดินให้ คทช. จังหวัดพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการจัดที่ดินด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
5.) ให้ คทช. จังหวัด และหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ หมั่นตรวจสอบ ดูแลพื้นที่ของรัฐภายหลังการอนุญาต ไม่ให้มีการบุกรุกเข้าไปทำประโยชน์ผิดกฎหมาย
6.) ปัญหาอุปสรรคที่หน่วยงานและผู้แทนประชาชนได้รายงานให้ที่ประชุมทราบในวันนี้ ขอให้หน่วยงานที่มีภารกิจโดยตรง ดำเนินการแก้ไขปัญหาทันทีและให้ คทช. จังหวัดเข้ามาบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน หากมีปัญหาอุปสรรคที่ต้องการการผลักดันเชิงนโยบายให้ คทช. จังหวัดแจ้งให้ สคทช. พิจารณาต่อไป
“ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่และสุดกำลัง เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคนได้อยู่ดีมีสุข มีที่ดินทำมาหากิน โดยเฉพาะผู้บริหารจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น คทช.จังหวัดนครพนม ที่ดินจังหวัด เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ และอีกหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ท่านได้ขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนไปคืบหน้าอย่างมาก และที่สำคัญ คือ พี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการจัดแปลงที่ดิน รัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกิน ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมคิดร่วมทำไปด้วยกัน ผมพร้อมจะผลักดันและสนับสนุนให้การดำเนินการใด ๆ เกิดผลลัพธ์และผลสำเร็จที่ดี” นายประเสริฐ กล่าวย้ำ
ด้าน ดร.รวีวรรณ ผอ.สคทช. ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์และภาพรวมของการติดตามเร่งรัดแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 2 ชุมชนบ้านพรเจริญ และการบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชนบทตำบลวังตามัว อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยผ่านโครงการบ้านมั่นคงชนบท เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิตตำบลวังตามัว
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการตามแผนกิจกรรมแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ครอบคลุมผู้เดือนร้อน 301 หลังคาเรือน ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงชนบทบ้านมั่นคงตำบลวังตามัว ถือเป็นกระบวนการการใช้เครื่องมือการพัฒนาที่อยู่อาศัยการสร้างความยั่งยืน ผ่านประเด็นงานที่อยู่อาศัยโดยการสร้างระบบสวัสดิการชุมชนที่อยู่อาศัยทุกมิติ จากการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนงานโดยชุมชนมีส่วนร่วมและต่อยอดกระบวนการขยายผลในพื้นที่ เขตพื้นที่ป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ตำบลโพนสวรรค์ ตำบลโพนบก และตำบลนาใน
“สคทช. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ในพื้นที่ คทช. ให้มีบ้านพักที่อยู่อาศัย มีอาชีพและรายได้ที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง พร้อมทั้งดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ควบคู่กันไปด้วยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลักของ สคทช. ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป” ดร.รวีวรรณ กล่าวย้ำ