หนูไม่รู้? หรือ พี่แกล้งโง่? โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงหลังๆ “โมนิก้า” มีเรื่องเจ็บๆ แสบๆ คันๆ มาเล่าให้แฟนคลับบ่อยมากเหลือเกิน ซึ่งบางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรง แต่บางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับผู้คนในตลาดหุ้น หรือแม้กระทั่งบางเรื่องก็มั่วๆ ซั่วๆ ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน จึงอยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นกันเอง เพราะเดี๊ยนต้องการให้ผู้คนในตลาดหุ้นคิดเองเป็น ไม่ใช่รอคนนั้น คนนี้ มาบอก ควรทำอย่างนั้น...อิอิอิ


*ช่วงหลังๆ “โมนิก้า” มีเรื่องเจ็บๆ แสบๆ คันๆ มาเล่าให้แฟนคลับบ่อยมากเหลือเกิน ซึ่งบางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรง แต่บางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับผู้คนในตลาดหุ้น หรือแม้กระทั่งบางเรื่องก็มั่วๆ ซั่วๆ ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน จึงอยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นกันเอง เพราะเดี๊ยนต้องการให้ผู้คนในตลาดหุ้นคิดเองเป็น ไม่ใช่รอคนนั้น คนนี้ มาบอก ควรทำอย่างนั้น…อิอิอิ

*เหมือนกับปลายสัปดาห์ก่อนที่ “โมนิก้า” เม้าท์ถึงความอ่อนเดียงสาของคนที่คิดจะทำเรื่อง hearing IPO ไปแล้วยกหนึ่ง และผลที่ออกมาก็ทำให้คนในสังคมหุ้นได้รู้ว่า ใครได้…ใครเสีย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนรอบข้างของเดี๊ยนตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัด และวันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะเม้าท์เรื่อง ลับๆ ล่อๆ ของดีลยักษ์ใหญ่ที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาไปเมื่อเร็วๆ นี้สักหน่อยดีกว่านะคะ

*เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า เดี๊ยนแอบไปเห็นข้อกฎหมายข้อหนึ่งของการทำดีลซื้อ BIGC  จากหุ้น  BJC ซึ่งมีการอ้างถึงประโยคที่ว่า จะทำการซื้อหุ้นทั้งหมด 58.56%  จากกลุ่มผู้ถือหุ้นต่างชาติ! “โมนิก้า” ถึงกับมีอาการสะดุ้งโหยงขึ้นมาในทันที (ทำไม ก.ล.ต. กับ ตลท. ถึงนิ่งเป็นสากตำพริก หรือเดี๊ยนเกิดอาการโรคจิตไปเอง) เพราะข้อความในส่วนนี้มันบอกอะไรหลายอย่างให้รู้นะซี

*มาถึงท่อนนี้ ผู้มีองค์ความรู้คงอึ้งไปตามกันซิว่า อีโมมันเม้าท์ถึงเรื่องอะไรของมันว่ะ? เดี๊ยนเลยถือโอกาสเฉลยให้ทุกท่านได้รู้ว่า นี่มันผิดกฎหมายนอมินีชัดๆ เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า มีข้อจำกัดเรื่องการห้ามถือหุ้นเกิน 49% ของคนต่างด้าว! และงานนี้คงทำให้ใครหลายคนนึกถึงดีลเก่าๆ ที่มีการใช้นอมินีเข้ามาถือหุ้นแทนในทันทีเลยใช่ม่ะ  พร้อมกับจินตนาการไปว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น?

* “โมนิก้า” ในฐานะประธานชมรมคนชอบเผือกแห่งประเทศไทย จึงขอบรรยายจินตภาพส่วนตัวต่อไปว่า ในเมื่อเป็นนอมินีที่เข้ามาถือหุ้นในราคาต่ำ (คงคล้ายกับ กุหลาบกง กุหลาบแก้ว กระมั่ง) และยังเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ มันก็ควรจะต้องเสียภาษีในส่วนที่ได้กำไรจากการขายหุ้นใช่หรือเปล่า? เดี๊ยนถึงอยากให้ผู้รู้ออกมาไขข้อข้องใจตรงนี้สักหน่อย…เนื่องจากหนูไม่รู้จริงๆ เจ้าค่ะ

*ส่วนประเด็นที่ “โมนิก้า” รู้แน่ๆ ในเที่ยวนี้คือ กลุ่มคาสิโนถืออยู่ 58.56%  ซึ่งเป็นการถือหุ้นอยู่ใน บ.เสาวนีย์โฮลดิ้งส์ 24.46% และถือในนาม GEANT INTERNATIONAL B.V. จำนวน 2 รายการ ในสัดส่วน 23.54%  และ 8.55% และดีลนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.20 แสนล้านบาท และหากต้องโดนเรียกเก็บภาษีขึ้นมาจริงๆ รัฐบาลทหารมีเงินเอาไปใช้ในโครงการต่างๆ อีกเพียบเลยนะคะ

*งานนี้คนที่จะให้คำตอบได้ดีสุด คงหนีไม่พ้นหน่วยงานของ ตลท. และ ก.ล.ต. ซึ่งอาจรวมถึงกรมธุรกิจการค้า และอาจพ่วงไปถึงกรมสรรพากร ส่วนตัวอีฉันขอนั่งพับเพียบรอฟังข่าวแบบนิ่งๆ ตามลักษณะกุลสตรีไทย และในระหว่างที่รอคนมาอธิบายเรื่องราวต่างๆ “โมนิก้า” ใคร่อยากรู้สักนิดหนึ่งว่า ในเมื่อมันผิดกฎหมายนอมินี…ย่อมทำให้ดีลในครั้งนี้เป็นโมฆะด้วยหรือเปล่า…หนูพูดเสียยืดยาว เพราะหนูไม่รู้จริงๆ ถ้ารู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างถ่องแท้ ก็คงไม่ตั้งคำถามแบบนี้หรอก (แถมมีคนสงสัยข้อกฎหมายตรงนี้ฝากถามอีกทีหนึ่ง เลยกลายเป็นหนังเรื่องยาวโดยอัตโนมัติ) เจ้าค่ะ

*ส่วนอีกหนึ่งข้อสงสัยที่ “โมนิก้า” อยากรู้มานานพอสมควรคงเป็นในรายของ TPOLY เพราะก่อนหน้านี้เทขายหุ้น TPCH อย่างหนักหน่วง พอประกาศงบปี 58 กลับขาดทุน 280 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยไม่ใช่น้อยว่า เกิดอะไรขึ้น?  แถมเงินที่ได้จากการขายลูกกินเพื่อประทังชีวิตก่อนหน้านี้ ก็อันตรธานหายไปไหนก็ไม่รู้แบบนี้ อนาคตจะเป็นเช่นไร คงพอเดากันออกนะคะ

*อีกหนึ่งรายที่หลายคนมองดูแล้ว เกิดความมั่นใจเกิน 100% ว่า ปี 59 NOK ขาดทุนต่ออีกปีแน่ๆ หลังจากปี 57 ขาดทุน 470 ล้านบาท ขณะที่ปี 58 ขาดทุน 570 ล้านบาท ส่วนปีนี้จะหนักหนาสาหัสกว่าที่ผ่านมาขนาดไหน? “โมนิก้า” ขอให้นักลงทุนวิเคราะห์จากปัญหากัปตันลาออกยกแผงที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้กันเอาเองว่า มันจะลากยาวไปถึงเดือนที่เท่าไหร่? ซึ่งตรงนั้นจะเป็นตัวเลขขาดทุนเพียวๆ ส่วนเดือนที่เหลือจะเริ่มทยอยกลับมาคุ้มทุนพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BANPU ออกอาการโซซัดโซเซอย่างหนักเป็นเวลากว่า 5 ปี และทำท่าจะลากยาวต่อไปอีกเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถือเป็นความเจ็บปวดรวดร้าวที่ยากจะหาคำอธิบาย ขนาดหุ้นย่อลงมาแถว 16 บาทอีกรอบ เดี๊ยนยังไม่กล้าหันไปมองสักเท่าไหร่ เพราะกลัวจะห้ามใจไม่อยู่! วันนี้ถึงต้องให้ผู้เล่นตัดสินใจกันเอาเองว่า กล้าทยอยเข้าไปรับหุ้นหรือเปล่า? เนื่องจาก 2 รอบที่แล้วหุ้นเด้งจากแถว 14 บาท และ 15 บาท รอบนี้น่าจะเป็น 16 บาทใช่อ่ะป่าว!

*ตบท้ายกันที่ควันหลงของคุณพี่ “ชาลี” อดีตผู้บริหาร ก.ล.ต. เพื่อสังคมจะได้ฉุกคิดกับข่าวที่เกิดขึ้นสักหน่อย หลังจากพรายกระซิบแอบไปได้ยินผู้ใหญ่รายหนึ่งพูดให้ฟังว่า ข่าวลือเกี่ยวกับอาการน้อยใจ เพราะคุณพี่ดันไปเจอการปั่นหุ้นอสังหาฯ  ต่อจากนั้นไม่มีใครยอมจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น…มันเป็นข่าวเม้าท์ที่สุดแสนจะมั่วซั่วเลยทีเดียว เพราะคนที่ทำหน้าที่จับหุ้นปั่นเป็นอีกคนหนึ่ง แถมพี่ชาลีไม่ได้รับผิดชอบในส่วนงานนี้! แล้วคุณพี่จะมีอาการนอยด์ได้อย่างไร?…งานนี้เขาฝากถามว่า หนูไม่รู้ หรือ พี่แกล้งโง่ กันแน่…ใครรู้ช่วยตอบหน่อยค่ะ

Back to top button