BH:มองกำไรไตรมาส1/59 แข็งแกร่งโบรกฯแนะซื้อราคาเป้าหมาย 250 บ.
BH ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรที่มีแนวโน้มขาขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและยังคงตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2559 ที่ 250 บาท
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (29 ก.พ.) คาดกำไรไตรมาส 1/59 ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีมากซึ่งเป็นฐานที่สูงในไตรมาส 1/58 ที่มีกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดถึง 975 ล้านบาท และ เพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสก่อนหน้า
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่ดี รายได้ค่ารักษาพยาบาลคาดขยายตัวในระดับต่ำกว่า 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยจากราคาค่ารักษาพยาบาลและจำนวนผู้ป่วยเคสรุนแรงที่สูงขึ้น จำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติคาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ระดับการเติบโตระดับเพียงตัวเลขหลักเดียวต่ำๆ ทั้งนี้หากเทียบรายไตรมาสรายได้และอัตรากำไรในไตรมาส 1/59 คาดปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงประมาณการ จากแนวโน้มการเติบโตปี 59 ที่ดีกว่า SET (ในกลุ่มที่ BLS ให้คำแนะนำ) BH ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ค่ารักษาพยาบาลเชิงอนุรักษ์นิยมที่ 8-10% ในปี 59 หนุนจาก ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น 3-5% การขยายตัวของจำนวนผู้ป่วยเคสรุนแรง 3-6% และการเติบโตของปริมาณผู้ป่วยที่เติบโตเพียงตัวเลขหลักเดียวต่ำๆ
ทั้งนี้หากผลตอบรับของการเปิดตัวคลินิกในย่างกุ้ง, พม่า (เปิดให้บริการในไตรมาส 2/59) เป็นไปด้วยดีน่าจะหนุนให้มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรได้ในระยะยาว หากประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามเป้า สำหรับโครงการคลินิกในพม่านั้นเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่ให้บริการสำหรับผู้ป่วยนอกเท่านั้น และตั้งอยู่ในเมืองหลวงเก่าอย่างย่างกุ้ง ด้วยพื้นที่รวมทั้งหมด 450 ตารางเมตร โดยให้บริการการดูแลรักษาขั้นพื้นฐาน, การตรวจทางห้องปฏิบัติการ, บริการเอกซเรย์, การเอ็กซเรย์เต้านมและการอัลตร้าซาวด์
ขณะที่ BH ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรที่มีแนวโน้มขาขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและยังคงตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2559 (คิดด้วยวิธี DCF) ที่ 250 บาท ด้วย WACC 7.6% และ terminal growth rate ที่ 2.0% ปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER ปี 2559 ที่ 38.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก 34 เท่า) ซึ่งเหมาะสมเนื่องจากค่า ROE ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มการแพทย์ของโลก (29% สำหรับ BH เทียบกับ 17% สำหรับค่า เฉลี่ยของโลก) กำไรแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกผ่านงบดุลที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง (มีสถานะเงินสดสุทธิ)